Mobile Version / สำหรับโทรศัพท์มือถือ ยินดีต้อนรับท่านผู้มาเยือน www.peoplecine.com ท่านยังไม่ได้ log in นะครับ เข้าใช้งานระบบ / สมัครสมาชิก/ ลืมรหัสผ่าน

ประธานกรรมการ :ปวีณ เขื่อนแก้ว
เวบมาสเตอร์:อนุกูล วิมูลศักดิ์ 084-819-7374,095-308-6840


= ภายใน24ชั่วโมง , = ภายใน 3 วัน = ทั่วไป , = คลาส2 , = คลาส3 ,
รูป
ย้อนอดีตวันหวานยังหวานอยู่เจ้าของ อ่าน ตอบ ผู้ตอบหลังสุด
-Great stars Vintage ep.40 ย้อนความสุขกับคลิปหนังเก่า ตอนที่212320ยังไม่มีคนตอบ
- William Boyd12450ยังไม่มีคนตอบ
-ปิดตำนานสปาร์ตาคัส “เคิร์ก ดักลาส” 13613.. 6/2/2563 15:34
-Great stars Vintage ep.39 ศาลเจ้าชัยพฤกษ์12320ยังไม่มีคนตอบ
-Great stars Vintage ep.38 ขอพรตรุษจีนย่านเยาวราช12020ยังไม่มีคนตอบ
-Bonanza Antes y Después 1959 - 201712630ยังไม่มีคนตอบ
-รวมซุปตาร์หนังรักยุค 70 จากไต้หวัน...โรงหนังศรีอุดรฉายทุกเรื่อง...13490ยังไม่มีคนตอบ
-best Living Actors Over 80 Years Old | Before and After 201913820ยังไม่มีคนตอบ
-Goodbye Babe: A tribute to Oliver Hardy13620ยังไม่มีคนตอบ
-รำลึกถึง วิสูตร ตุงครัตน์ ท่านจากไปปี 254646191.. 5/12/2562 19:37
-GEORGE LAZENBY As JAMES BOND(1969)14480ยังไม่มีคนตอบ
-AJM Group จัดประกวดร้องเลียนแบบ Elvis Presley16341.. 24/11/2562 14:43
-Great stars Vintage ep.32 ตอน กระปะทะกันของตัวละครในหนัง14470ยังไม่มีคนตอบ
-Jennifer Connelly 14920ยังไม่มีคนตอบ
-หลินชิงเสีย15501.. 18/11/2562 15:06
-อรหันต์ทองคำ ของโจวเหวินฟะ12390ยังไม่มีคนตอบ
เลือกหน้า
[<<] [4] [5] [6] [7] [8] [9] [10] [11] [12] [13] [14] [15] [16] [17] [18] [19] [20]
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 317

(ID:25072) อรหันต์ทองคำ ของโจวเหวินฟะ


ขอขอบคุณข้อมูลจากคุณ เก้ากระบี่เดียวดาย ครับ

อรหันต์ทองคำ ของโจวเหวินฟะ

“สิ่งที่ยากที่สุดในชีวิตคนเราไม่ใช่เรื่องของการหาเงินให้ได้มากที่สุด แต่คือทำอย่างไรเราจึงจะรักษาความคิดและจิตใจที่่สงบสุขและสมดุลในการใช้ชีวิตเอาไว้ให้ได้” โจวเหวินฟะได้กล่าวประโยคนี้ไว้ในการสัมภาษณ์ กับทาง Korean Daily เกี่ยวกับการประกาศบริจาคทรัพย์สินที่เขามีอยู่ทั้งหมดให้กับการกุศล ซึ่งคิดเป็นเงินมากถึงห้าพันล้านหยวน (ราว 2.35 หมื่นล้านบาท)

โจวเหวินฟะเกิดวันที่ 18 พฤษภาคม ค.ศ. 1955 บนเกาะลัมมา นอกชายฝั่งของเกาะฮ่องกง โดยมีมารดาทำอาชีพเป็นแม่บ้าน และปลูกผักสวนครัว ส่วนบิดาทำงานที่บริษัทน้ำมัน Shell ชีวิตวัยเด็กของเขาเติบโตขึ้นท่ามกลางชุมชนของชาวนาและเกษตรกร ในบ้านที่ไม่มีไฟฟ้าเข้าถึง เขาตื่นแต่เช้าเพื่อช่วยแม่ขายเฉาก๊วยและขนมฮักกา และในช่วงบ่ายก็ช่วยงานในทุ่ง

โจวเหวินฟะย้ายตามครอบครัวไปยังเกาะเกาลูนเมื่ออายุ 17 ปี ในตอนนั้นพระเอกในช่วงวัยรุ่นไม่ได้เรียนหนังสือต่อ เขาลาออกจากโรงเรียนเพื่อนช่วยครอบครัวหาเงินด้วยการทำงานพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น พนักงานยกกระเป๋าในโรงแรม เด็กส่งไปรษณีย์ คนขายกล้อง แม้แต่คนขับแท็กซี่ จุดพลิกผันในชีวิตของโจวเหวินฟะเกิดขึ้นเมื่อเขาเข้าเรียนในวิทยาลัย เขาได้เจอโฆษณาบนหนังสือพิมพ์ที่ช่องโทรทัศน์ท้องถิ่นอย่าง TVB กำลังหานักแสดงฝึกหัด ทำให้เขาเซ็นสัญญากับทางสตูดิโอจำนวนสามปี และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของอาชีพการแสดงของเขา

โจวเหวินฟะลองผลงานการแสดงครั้งแรกในบทเล็กๆ ด้วยละครโทรทัศน์จำนวน 7 ตอน อย่าง God of River Lok ของช่อง TVB ที่ออกฉายในปี 1975 ซึ่งตอนนั้นเขามีอายุเพียงแค่ 20 ปีเท่านั้น และในช่วง 5 ปีแรกที่โจวได้โลดแล่นในวงการ และยังเป็น 'หน้าใหม่' เขาได้มีผลงานทั้งละครโทรทัศน์และภาพยนตร์ไปพร้อมๆ กัน

ก่อนที่จะประสบความสำเร็จเป็นพลุแตกจาก ละครชุด “เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้”(1980)

ในยุคต้นทศวรรษที่ 80's โจวเหวินฟะ แม้จะประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นกับการเป็นนักแสดงละครซีรีส์ แต่ผลงานภาพยนตร์ล้วนล้มเหลวโดยสิ้นเชิง จนได้รับฉายาว่า "ความหายนะแห่งจอเงิน" แต่เขาก็โดดเด่นด้านฝีมือการแสดงคว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากสองเวทีใหญ่ คือ ม้าทองคำไต้หวัน และ เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเอเชียแปซิฟิค จากภาพยนตร์เรื่อง Hong Kong 1941 (1984) จนกระทั่งในปี 1986 ได้ร่วมงานกับ จอห์น วู ผู้กำกับหน้าใหม่ของวงการภาพยนตร์ ในหนังแอ๊คชั่นแนวสากลเรื่อง โหด เลว ดี (A Better Tomorrow , 1986) ตัวหนังประสบความสำเร็จอย่างมหาศาลไปทั่วเอเชียและดังไกลถึงระดับโลก เป็นปรากฏการณ์หนังแอ๊คชั่นสากล ที่ปฏิวัติวงการหนังฮ่องกง(Set a new standard for Hong Kong gangster films) เปลี่ยนแนวภาพยนตร์จากประเภทกังฟู แนวการต่อสู้โบราณสู่แนวหนังแอ็คชั่นสากลสมัยใหม่ ที่บ้านเราเรียกว่า หนังจีนสากล มีการสร้างตามกระแสภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นจำนวนมาก จนวงการภาพยนตร์โลกยกย่องให้ภาพยนตร์เรื่อง โหด เลว ดี , จอห์น วู ในฐานะผู้กำกับ , โจวเหวินฟะ ในฐานะนักแสดง เป็น"สัญลักษณ์ หรือไอคอนของหนังแอ๊คชั่นสไตล์ฮ่องกง"(The action heroic bloodshed-genre films) ที่ทรงอิทธิพลต่อหนังแอ๊คชั่นทั่วโลก รวมทั้งวงการหนังฮอลลีวู้ด เป็นตำนานจนถึงทุกวันนี้ หลังจากนั้นภาพยนตร์ที่ โจว เหวินฟะ ร่วมงานกับ จอห์น วู ล้วนประสบความสำเร็จอย่างสูงในตลาดโลก เช่น โหดตัดโหด (The Killer , 1989) ทะลักจุดแตก (Hard Boiled , 1992) รวมทั้งหนังแอ๊คชั่นแนวยิงปืนเรื่องอื่นๆ เช่น บอกโลกว่าข้าตายยาก (Full Contact , 1992) ของผู้กำกับหลินหลิ่มตง(Ringo Lam) และโจว เหวินฟะ ยังได้รับยกย่องว่า "เป็นนักแสดงที่ถือปืนสองมือได้สง่างามที่สุดในโลก" นิตสาร The Los Angeles Times สหรัฐอเมริกา ยกย่องโจว เหวินฟะว่า "เป็นนักแสดงหนังแอ็คชั่นที่โดดเด่นที่สุดในโลก" (The coolest actor in the world)

นอกจากภาพยนตร์แนวแอ๊คชั่นประเภทยิงปืนแล้ว โจวเหวินฟะยังแสดงภาพยนตร์ได้หลากหลายแนวอย่างเช่น แนวรักโรแมนติกในเรื่อง ดอกไม้กับนายกระจอก (An Autumn's Tale ,1987) แนวตลกคอมมาดี้ในเรื่อง ยกเครื่องเรื่องจุ๊ (The Romancing Star ,1987) แนวดราม่ารันทดในเรื่อง อาหลาง (All About Ah-Long ,1989) ล้วนประสบความสำเร็จทั้งด้านรายได้และคำวิจารณ์ จนได้รับยกย่องว่า เขาเป็นพระเอกยอดนิยม(Box office star) แห่งทศวรรษที่ 80's และเขายังเป็นนักแสดงยอดฝีมือของวงการภาพยนตร์คว้ารางวัลตุ๊กตาทอง(Hong Kong Film Awards) นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม(Best Actor) ถึง 3 ครั้ง ในรอบ 5 ปี จากภาพยนตร์เรื่อง โหด เลว ดี (A Better Tomorrow , 1986) เถื่อนตามดวง (City on Fire ,1987) และ อาหลาง (All About Ah-Long ,1989) ตลอดระยะเวลาช่วงกลางทศวรรษที่ 80s จนเข้าสู่ยุคต้นทศวรรษที่ 90s ไม่มีนักแสดงคนไหนโด่งดังและโดดเด่นไปกว่าโจวเหวินฟะ ทั้งในแง่ของความนิยมและด้านฝีมือการแสดง

ในปี 1989 โจว เหวินฟะ ได้แสดงหนังคู่กับ หลิว เต๋อหัว ในภาพยนตร์เรื่อง คนตัดคน หรือ God of Gambler (1989) รับบทโคตรเซียนเกาจิ้ง นักพนันเก่งที่สุดแห่งยุค โชคชะตากลับตกอับแต่ได้รับการช่วยเหลือจากจิ๊กโก๋ข้างถนน(หลิว เต๋อหัว) ภาพยนตร์ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายไปทั่วเอเชีย เป็นปรากฏการณ์ของวงการหนังฮ่องกงและวงการภาพยนตร์เอเชียอีกครั้งหนึ่งในชีวิตการแสดงของเขา ตัวละคร "โคตรเซียนเกาจิ้ง"(高進/賭神) ยังเป็น สัญลักษณ์ หรือไอคอนภาพยนตร์แนวการพนัน(The action heroic gambling films) เป็นตำนานยาวนานมาถึงทุกวันนี้
เข้าสู่ยุคทศวรรษ ที่ 90 โจว เหวินฟะ รับงานแสดงน้อยลงมาก เฉลี่ยปีละ 1 - 2 เรื่อง เขาเคยให้สัมภาษณ์ว่า อายุมากขึ้น ต้องการพักผ่อนให้รางวัลแก่ชีวิต ตลอดช่วงสิบปีที่ผ่านมา(ในทศวรรษที่ 80s) เขาทำงานมาหนักมาก แต่แม้จะเล่นเพียงปีละเรื่องสองเรื่อง ภาพยนตร์เรื่อง คนตัดคน ตอน เกาจิ้งตัดเอง" God of Gamblers Return (1994) ก็ยังทำรายได้เป็นลำดับสามของยุค 90s โดยเฉพาะบท"โคตรเซียนเกาจิ้ง" โจวซิงฉือนำไปล้อเลียนจนเขาโด่งดังเป็นพลุแตกในเรื่อง คนตัดเซียน (All for the winner , 1990)

โจวเหวินฟะชอบทำงานการกุศล และช่วยเหลือพี่น้องนักแสดง ด้วยกัน ถ้านักแสดงคนไหนมีปัญหา พี่ใหญ่โจวพร้อมจะช่วยให้คำปรึกษาดูแลน้องๆเสมอ โจวเหวินฟะ ไม่เคยหยุดที่จะพัฒนาฝีมือในด้านการแสดงของเขา ครั้งหนึ่งนักข่าวเคยถามว่า ”รู้สึกยินดีไหม ที่ได้เป็นนักแสดงรุ่นใหญ่ที่จะคอยแนะนำน้องๆ”
“ผมรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งเวลาที่เข้าฉากกับนักแสดงรุ่นใหม่ๆ ผมกลัวที่จะพลาด และมักจะได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆจากพวกเขาเสมอ เพราะทุกคนมีความพิเศษที่ต่างกัน” โจวเหวินฟะตอบ ด้วยความเป็นกันเอง ให้เกียรตินักแสดงด้วยกัน ดาราดังอย่าง โจวซิงฉือ และ หลิวเต๋อหัว ทั้งสองคนล้วนให้ความเคารพรักในตัวโจวเหวินฟะดั่งอาจารย์และต้นแบบด้านการแสดงและการวางตัวในวงการบันเทิง

นั่งไม่เปลี่ยนชื่อ ยืนไม่เปลี่ยนแซ่

ช่วงยุค 90s ทั้งผู้กำกับและนักแสดงหลายคนข้ามไปรับงานกำกับและงานแสดงทางฮอลลีวู้ด เนื่องจากหลายคนไม่มั่นใจในท่าทีของจีนแผ่นดินใหญ่ภายหลังปี 1997 ประเทศอังกฤษส่งมอบเกาะฮ่องกงคืนให้กับจีนแผ่นดินใหญ่ โจวเหวินฟะก็เช่นกันเขาและครอบครัว ย้ายไปพำนักที่สหรัฐอเมริกาเป็นถิ่นที่อยู่ชั่วคราวและได้แสดงภาพยนตร์ฮอลลีวูดหลายเรื่อง เช่น นักฆ่ากระสุนโลกันต์ (The Repleacement Killer ,1998) คนคอรัปชั่น (The Corrupter ,1999) แอนนา แอนด์ เดอะ คิง (Anna and the King ,1999) ซึ่งประสบความสำเร็จระดับกลางๆ

ดาราจีน ฮ่องกง ทั้งในอดีตและปัจจุบันล้วนใช้ชื่อภาษาอังกฤษ ตามด้วยแซ่ อาทิ หลี่เสี่ยวหลง (Bruce Lee) เฉินหลง (Jackie Chan) หลี่เหลียนเจี๋ย (Jet Li) เจินจื่อตัน (Donnie Yen) แต่สำหรับ โจวเหวินฟะ ถึงแม้ต้องเล่นหนังฮอลลีวูด เขาก็ยังใช้ชื่อว่า 'Chow Yun Fat' เหมือนเดิม เป็นซุปเปอร์สตาร์ฮ่องกงเพียงคนเดียวที่โกอินเตอร์ฮอลลีวูดแล้วทุกคนจดจำชื่อจริงของเขาได้

ในยุค 90s นับได้ว่าผลงานฮอลลีวู้ดของโจวเหวินฟะไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไหร่ แอนนา แอนด์ เดอะ คิง (Anna and the King ,1999) แม้จะโด่งดัง แต่ชื่อเสียงกลับอยู่ที่โจดี้ ฟอสเตอร์ ผู้รับบทแอนนา แต่ในยุค 2000 โจวเหวินฟะกลับทำในสิ่งที่นักแสดงสัญชาติจีนไม่เคยทำได้มาก่อน คือการนำภาพยนตร์เรื่องสัญชาติไต้หวัน พยัคฆ์ระห่ำ มังกรผยองโลก (Crouching Tiger,Hidden Dragon ,2000) ของผู้กำกับ อั้งลี หรือ หลีอัน ทำรายได้ไปถึง 121 ล้านเหรียญสหรัฐ(USD) เป็น"หนังภาษาต่างประเทศ" ที่ทำเงินสูงสุดในสหรัฐอเมริกา ทั้งยังได้รับรางวัลออสการ์ถึง 4 สาขา ประกอบด้วย รางวัลภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม ถ่ายภาพยอดเยี่ยม และกำกับศิลป์ยอดเยี่ยม และยังได้โอกาสร่วมแสดง Pirates of the Caribbean: At World's End(2007) ที่ทำรายได้ทั่วโลกเกือบหนึ่งพันล้านเหรียญสหรัฐ ต่อมาในปี 2014 โจว เหวินฟะได้กลับมารับบทเซียนพนันอีกครั้ง ในภาพยนตร์เรื่อง โคตรเซียนมาเก๊า เขย่าเวกัส (From Vegas to Macau , 2014) ได้รับความนิยมอย่างมหาศาลในจีนแผ่นดินใหญ่ จนมีภาคสองตามมา โคตรเซียนมาเก๊า เขย่าเวกัส ภาค 2 ( From Vegas to Macau 2 , 2015) ในภาคนี้ มีหลิว เต๋อหัว มารับเชิญในบท "โคตรเซียนน้อย" ศิษย์เอกโคตรเซียนเกาจิ้งในตอนเครดิตท้ายเรื่อง(ent credit) เป็นกระแสฮือฮาอย่างมากส่งให้ยอดรายได้บนตาราง box office ในจีนแผ่นดินใหญ่สูงถล่มทลายในปีนั้น และทำให้หนังเรื่องนี้เชื่อมโยงสู่จักรวาล God of Gambler หรือ คนตัดคน และมีบทบาทในภาคถัดมา คือ โคตรเซียนมาเก๊า เขย่าเวกัส ภาค 3 (From Vegas to Macau 3 , 2016) ในภาคนี้ แม้จะประสบความสำเร็จทางรายได้อย่างมหาศ่าลกว่าทุกภาค แต่ถูกแฟนๆภาพยนตร์ถล่มอย่างยับเยินแสนสาหัส กลายเป็นหนังยอดแย่ที่สุด แห่งปี 2016

ด้านชีวิตส่วนตัว โจวเหวินฟะ ค่อนข้างจะใช้ชีวิตเรียบง่าย สมถะ แม้แต่เสื้อผ้าที่เขาสวมใส่ปกติ เขายังไปยืนเลือกซื้อเสื้อผ้าตามกะบะเสื้อผ้าลดราคาตามห้าง ““ผมไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเพื่อคนอื่น ผมแค่สวมใส่ทุกอย่างที่ผมใส่แล้วสบายใจแค่นั้น”

หรือการยืนต่อแถวซื้อตั๋วชมภาพยนตร์ที่เขาแสดงเอง เรื่องรถยนต์พาหนะ โจวเหวินฟะจะใช้รถสาธารณะ จนมีคำพูดติดตลกของชาวฮ่องกงว่า “ถ้าอยากเจอดาราดังก็ต้องไปห้างหรู แต่ถ้าอยากเจอโจวเหวินฟะ ต้องไปที่ตลาดและสถานีรถไฟใต้ดิน”

จนกระทั่ง โจวเหวินฟะ ประกาศบริจาคทรัพย์สินทั้งหมดเป็นการกุศล และกล่าวว่า “เงินเหล่านี้ไม่ใช่ของผม ผมแค่ดูแลมันชั่วคราวเท่านั้น เงินไม่ใช่สิ่งที่จะนำพาความสุขที่แท้จริงมาให้ผมได้”

เขียนถึงตรงนี้แล้วคิดถึงเรื่องเซนที่เคยอ่านเกี่ยวกับ อรหันต์ทองคำ

ที่เชิงเขาผู่ถอ มีบ้านชายหาฟืนและครอบครัวอาศัยอยู่หลังหนึ่ง ครอบครัวนี้เลี้ยงชีพด้วยการหาฟืนมาหลายชั่วคนแล้ว ทุกๆเช้าชายคนนี้จะออกไปหาฟืนแต่เช้า กว่าจะกลับก็ค่ำมืด ใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก หากินมาไม่พอเลี้ยงปากท้อง ภรรยาของเขาเมื่อไปวัด จึงมักจะวิงวอนขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เมตตา ช่วยเหลือให้หลุดพ้นจากความทุกข์ยาก

และแล้ววันหนึ่งโชคลาภก็มาถึง ชายหาฟืนคนนั้น ขุดพบรูปปั้นอรหันต์ทองคำมา 1 องค์ ชั่วพริบตานั้นชายคนนั้นก็กลายเป็นเศรษฐีขึ้นมาทันที เลยไปซื้อบ้านและไร่นา พร้อมกับจัดงานเลี้ยงฉลองกินกับญาติสนิทมิตรสหายกันอย่างครึกครื้น

ตามความเป็นจริงแล้วชายคนนั้นน่าจะรู้จักพอแล้ว น่าจะรู้จักรสชาติของเศรษฐีแล้ว แต่ก็อิ่มอกอิ่มใจได้ไม่นาน ความทุกข์กังวล ก็เริ่มมาแล้ว ถึงกับกินไม่อิ่ม นอนไม่หลับ ผุดลุกผุดนั่งทั้งวัน

ภรรยาของเขาจึงเตือนว่า “ตอนนี้บ้านเราเรื่องกินเรื่องอยู่ก็ไม่ขาด อะไร ทั้งยังมีเรือกสวนไร่นา บ้านหลังงาม ท่านยังจะทุกข์กังวลอะไรอีก ? “

ชายหาฟืนได้ยินภรรยาถามอย่างนั้น จึงพูดอย่างรำคาญว่า “ แม่บ้านอย่างเจ้าจะรู้อะไร ? ที่ข้ากังวลก็เรื่องของ 18 อรหันต์ทองคำนี่ซี ข้าเพิ่งจะได้มาองค์เดียว อีก 17 องค์ ข้ายังไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน ? แล้วข้าจะสบายใจได้อย่างไร ? “

ในที่สุดชายตัดฟืนซึ่งคิดกังวลแต่เรื่องอยากได้ 17 อรหันต์ทองคำที่เหลือ ก็ล้มป่วยลง ป่วยได้ไม่นานก็ตายไป

อรหันต์ทองคำของชายตัดฟืน กับเงินทองและความสำเร็จ ของโจวเหวินฟะ คล้ายคลึงยิ่งและแตกต่างกันอย่างยิ่ง เงินทองและความสำเร็จของโจวเหวินฟะนั้นได้มาจากความพยายามของเขา หลายผู้คนประสบความสำเร็จ แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะเข้าใจอย่างถ่องแท้และปล่อยวางได้

อรหันต์ทองคำของชายตัดฟืน นับว่าเป็นโชควาสนา หรือ ทุกขลาภ นั่นคือใจที่ชายตัดฟืนกำหนด ยิ่งหลงโลภกับสิ่งที่ไม่เคยมีและไม่ปล่อยวาง ท้ายที่สุดคนที่ไม่มีความสุขคือตนเอง

ส่วนอรหันต์ทองคำ(ความสำเร็จและชื่อเสียง) ของโจวเหวินฟะ เสมือนสิ่งที่มีและไม่มี เมื่อเยาว์วัยเขาไขว่คว้า เมื่อครอบครองเขาปล่อยวาง ดั่งประโยคของหลี่มู๋ไป๋ ตัวละครสำคัญที่ทำให้ชื่อเสียงของเขาโด่งดังไปทั่วโลก

“เมื่อกำมือท่านจะมิได้ครอบครองอะไรเลย แต่เมื่อแบมือท่านจะได้ครอบครองทุกสรรพสิ่ง”



ความเห็น


เลือกหน้า

จำนวนหัวข้อทั้งหมด 0

กลับขึ้นข้างบน / กลับหน้าแรก

ค้นกระดานข่าว:


ถูกเปิด: ถูกคลิ๊กแล้ว: 116948872 ตอนนี้มีผู้เข้าชม : 1 ล่าสุด :Stanley , RobertMIGH , ProlBlask , Robbsf , Jamesfap , LavillKer , Maciedetpailt , BobbyHOm , Sallycgriet , CarolyncJuh ,