โอ้โฮ้  อะไรเงื่อนไขจะเยอะขนาดนั้น   โดยส่วนตัว ข้อความอ่านแล้วรู้สึกไม่ค่อยดีง่ะครับ  เหมือนไม่ง้อลูกค้าสักเท่าไร  (ความเห็นส่วนตัวนะครับ)  แต่ของเขาอาจอร่อยสุด ๆ ก็ได้ครับ

เอ..วันที่ผมถ่ายมามีแถวล่างด้วยนี่...^^

ทำซะเหมือน จาก ค.ห.ที่1กับ ค.ห.ที่7อ่ะ

พ่อค้าของหวาน! เปิดใจเหตุไม่รับแบงค์ใหญ่

วันที่ 9 มี.ค. 2552 ผู้สื่อข่าวได้ไปสัมภาษณ์นายพนม เอกอุ่น อายุ 36 ปี พ่อค้าเฉาก๊วยในตลาดปรีชา อ.เมืองอุดรฯ ซึ่งได้ขึ้นป้ายประกาศไม่รับแบงค์ 500 และแบงค์ 1,000 บาท จากลูกค้าที่มาซื้อของร้านตน ซึ่งเป็นที่น่าสนใจเพราะแปลกไปจากพ่อค้ารายอื่น โดยนายพนม เผยว่าการทำเช่นนี้เพื่อไม่ต้องการเสียเวลาในการทอนเงิน เพราะว่าตนต้องตักเฉาก๊วยให้กับลูกค้ารายอื่น โดยลูกค้าที่มาซื้อนั้นหากไม่มีแบงค์ย่อยก็สามารถติดค้าง และนำเงินมาจ่ายทีหลังได้

นายพนม ได้เล่าว่าหลังจากตนเลิกทำงานเป็นลูกจ้าง ที่ร้านคอมพิวเตอร์แห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น จึงได้เดินทางกลับมา จ.อุดรฯ ซึ่งเป็นบ้านเกิดโดยได้มาเป็นพ่อค้าขายเฉาก๊วยในตลาดปรีชา เป็นเวลา 4 ปีแล้ว ซึ่งได้เกิดความคิดนี้ขึ้นมาเนื่องจาก ในขณะที่ตักเฉาก๊วยนั้นมีลูกค้ามาเข้าคิวรออยู่จำนวนมาก แต่ต้องมาเสียเวลาในการทอนเงิน ให้กับลูกค้าที่จ่ายแบงค์ 500 หรือ 1,000 จึงได้ทำป้ายดังกล่าวขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาหากลูกค้าไม่มีแบงค์ย่อยตนก็ยอมให้ค้างไว้ก่อน แล้วค่อยมาจ่ายทีหลัง แม้จะไม่รู้จักกันมาก่อน แต่ลูกค้าก็นำเงินมาจ่ายให้ ซึ่งบางครั้งค้างเป็นเดือนจนตนลืมไปเลย ว่ามีลูกค้าคนไหนบ้างที่ติดเงินเอาไว้ ส่วนเฉาก๊วยนั้นตนขายถ้วยละ 15 บาท ซึ่งช่วงนี้อากาศร้อนจะมีลูกค้าเป็นจำนวนมาก ซึ่งในแต่ละวันจะขายได้ 300 ถ้วยขึ้นไป ส่วนความคิดเห็นของลูกค้าที่มาซื้อนั้น ได้บอกว่าก็เป็นเรื่องแปลกที่สร้างเงื่อนไขแบบนี้ขึ้นมา แต่ก็เป็นจุดขายอย่างหนึ่งของร้าน และคิดว่าไม่น่าจะเป็นอุปสรรคในการมาซื้อเฉาก๊วยที่ร้านแห่งนี้

ขอขอบคุณข่าวจากเวป www.udondee.com