ในช่วงระหว่าง พ.ศ. 2524 เป็นต้นมา หรือที่เรียกกันว่า ยุค 80 ซึ่งเป็นช่วงที่ "หนังกลางแปลง" ได้รับความนิยม แม้ว่าการเข้ามาของวิดีโอ เทป ระบบ VHS จะดึงผู้ชมไปบ้าง แต่ท้ายที่สุดแล้ว "หนังกลางแปลง" ก็ยังเป็นมหรสพที่ยังมีความสำคัญตามงานต่าง ๆ จนเข้าสู่ยุค 90 ซึ่งก็คือเริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 2534 เรื่อยมา กระทั่งถึงยุค "สหัสวรรษ" (MILLENNIUM) ตรงกับ พ.ศ. 2543 ที่เป็นช่วง "ขาลง" ของหนังกลางแปลง อันเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจในยุค "ฟองสบู่แตก" ก่อนหน้า รวมทั้งการเข้ามาของ "วิดีโอ ซีดี" ที่ราคาถูกลง แถมถูกกระหน่ำซ้ำเติมด้วย "แผ่นผี" และ "บิทเทอร์เรนต์" ที่สามารถโหลดหนังผ่านอินเตอร์เน็ตมาดูได้ที่ด้วยตนเอง ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์

ช่วงที่ระหว่างการรอชมภาพยนตร์ ในบรรยากาศ "หนังกลางแปลง" มีสิ่งหนึ่งที่หลายคนมองข้าม แต่สำหรับผมควรได้รับการบันทึกไว้ในหน่วยความจำหลักที่อยู่บนศีรษะ สิ่งที่ว่านี้ก็คือ "เพลง" ที่เปิดตามหน่วยฉายกลางแปลงต่าง ๆ

ช่วงที่ผมเริ่มดู "หนังกลางแปลง" เพลงต่าง ๆ ที่ทางหน่วยได้เปิดเพื่อทดสอบระบบเสียงบ้าง หรือเปิดเพื่อฆ่าเวลาก่อนที่จะฉายภาพยนตร์ ก็จะได้ยินผ่านโสตประสาทอยู่ตลอด บางเพลงก็เปิดซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า จนผมสามารถจดจำและร้องตามได้ แม้จะร้องผิด ๆ ถูก ๆ (ดำน้ำ) ก็ตาม ในครอบครัวนั้น การซื้อเทปเพลงสักตลับหนึ่งนี้ ต้องเป็นเพลงที่ได้รับความนิยมจริง ๆ เพราะราคาเทปตลับหนึ่งในสมัยนั้น ถ้าจำไม่ผิดน่าจะประมาณ 40 หรือ 50 บาท (ถ้าใครจดจำราคาได้ ช่วยแก้ไขในความเห็นต่อ ๆ ไป) ตอนนั้นที่ครอบครัวก็จะมีเทปเพลงของวง "นกแล" ชุด "หนุ่มดอยเต่า" ซึ่งเป็นช่วงยุคแรกของค่ายแกรมมี่ และยังมีวง "เดอะ ม้ง" ซึ่งเป็นค่ายนิธิทัศน์ อีก 1 ชุดเท่านั้น ส่วนศิลปินที่ได้รับความนิยมในยุคนั้น อย่าง อาร์เอส ซาวด์, แกรมมี่ หรือนิธิทัศน์ รวมทั้งค่ายเพลงที่ผมมาทราบชื่อในตอนหลัง เช่น อโซน่า, ไนท์สปอต หรือค่ายคีตา ฯ ส่วนใหญ่ก็อาศัยฟังจากบ้านอื่นที่ซื้อเทป, ฟังจากวิทยุที่อยู่ในครอบครัว ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นลูกทุ่ง หรือวิทยุของบ้านอื่น, ตามตู้เพลง (บางทีก็หยอดเหรียญเอง) แต่แหล่งเปิดเพลงที่ได้ยินได้ฟังและเข้าถึงง่ายที่สุดนั่นก็คือ "หนังกลางแปลง" นอกจากนี้ก็ยังมีเพลงสากลยอดนิยมในยุคนั้นที่อยู่ในความทรงจำอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งผมเริ่มซื้อเทปเพลงจริง ๆ จัง ๆ เมื่อปี พ.ศ. 2534

ผมขอเชิญสมาชิกทุกท่าน ร่วมแบ่งปันความรู้สึกเพื่อรำลึกถึงการฟังเพลงในยุคนั้น พร้อมกับช่วยนึกถึงเพลงที่เคยเปิดตามหนังกลางแปลงในยุคนั้น ซึ่งแต่ละท้องที่ก็จะเหมือนหรือแตกต่างกันอยู่บ้าง โดยผมจะประเดิมก่อนครับ

พ.ศ. 2531 เป็นปีที่ผมได้กลับไปอยู่ร่วมครอบครัวอีกครั้งที่ จ. กำแพงเพชร ซึ่งตอนนั้นก็เริ่มดูหนังกลางแปลงอย่างจริงจัง เนื่องจากมีหนังกลางแปลงจากนครสวรรค์เข้ามาปิดวิกฉายทุกวันศุกร์ หรือไม่ก็ฉายให้ชมฟรีในงานวัดทุ่งสนุ่น หรืองานศพ และยังมีหนังขายยาจากบริษัท บีเอ็ลฮั้ว ตราไก่เกาะลูกโลก และยังเจ้าอื่นที่เข้ามาฉายอย่าง เครื่องดื่มกระทิงแดง, เครือซีเมนต์ไทย รวมทั้งหนังขายยาอีกเจ้าหนึ่ง ผมจำชื่อไม่ได้ คราวนั้นเอาหนังอินโดนีเซียมาฉายครับ (เพิ่งทราบภายหลังว่าบ้านเราเคยนำเข้าหนังจากอินโดนีเซียเข้ามาฉาย 2 เรื่อง เรื่องแรกก็คือ "โอ้รัก" อีกเรื่องหนึ่งดันนึกชื่อไม่ออก จริง ๆ เคยมีคนบอกแล้ว แต่จำไม่ได้ซะเอง เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับอาถรรพณ์ มีหลายฉากชวนแหวะ ดูแล้วเหมือนกับละครหลังข่าวในยุคนี้)

เพลงสตริงที่เปิดในยุคนั้นก็จะมี

• นูโว ชุด เป็นอย่างนี้ตั้งแต่เกิดเลย
• ไมโคร ชุด หมื่นฟาเรนไฮต์
• แหวน ฐิติมา ที่มีเพลง ยึกยัก
• อัสนี-วสันต์ โชติกุล
• พลอย
• เพื่อน
• ฟรุ๊ตตี้
• เรนโบว์ (ส่วนใหญ่จะได้ยินเพลง "ความในใจ" กับ "เออ...ก็ใช่")
• อิทธิ พลางกูร ที่มีเพลง "ให้มันแล้วไป"
• ซูซู
• กระท้อน

หลังจากที่ครอบครัวย้ายมาอยู่นครสวรรค์แล้ว เพลงที่เปิดก็เริ่มมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น เช่น

• นก จริยา (เอสพี ศุภมิตร)
• ชาย...ย (เอสพี ศุภมิตร)
• ปานามา
• โดมิแนนท์
• ติ๊ก ชิโร่
• TWO
• ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง
• อ้อม สุนิสา
• แสงระวี อัศวรักษ์

เท่าที่ทราบ เพลงเหล่านี้ก็จะซื้อเป็นเทป เปิดทั้งอัลบั้ม และบางครั้งก็ไปจ้างห้องบันทึกเสียง เพื่อดำเนินการอัดให้ กรณีนี้จะได้เพลงเด่น เพลงดังที่ได้รับความนิยมหลายเพลง นอกจากนี้ยังมีช่วงหนึ่งที่มีการบันทึกเสียงการแสดงสดจากวงสตริงที่เล่นตามงานต่าง ๆ โดยบันทึกลงเทปแล้วฝากขายผ่านหนังกลางแปลงอีกที ตรงนี้ไม่มีให้เห็นแล้ว มายุคนี้กลับมีวีซีดีหรือดีวีดีบันทึกการแสดงสดวงดนตรีตามเธคหรือผับเข้ามาแทนที่

มีเทปเพลงอยู่ชุดหนึ่งที่หน่วยหนังกลางแปลงเค้าไม่เปิดเลย ถึงจะมีคนขอให้เปิดก็หาเหตุอ้างว่าไม่มี ไม่ได้ซื้อ เป็นต้น ศิลปินที่ว่านี้ก็คือ "คาราบาว" ครับ เหตุผลก็คือ ถ้าเปิดเมื่อไหร่ ก็จะมีบรรดาขี้เมาเข้ามาร่วมเต้นแจม บางครั้งก็สร้างความรำคาญให้บรรดาลูกน้อง ถึงขั้นทะเลาะวิวาทก็เคยมี

ส่วนเพลงสากล ส่วนใหญ่เป็นเพลงแดนซ์ในช่วงคาบเกี่ยวระหว่างปลายยุค 70 และ 80 ตอนต้น เช่น Dschinghis Khan (เจงกิสข่าน), One Way Ticket, D.I.S.C.O., Funky Town เป็นต้น รวมทั้งเพลงแดนซ์ยุค 80 เต็มตัว เช่น Tarzan Boy, Thai Nana, Super Star, One Night in Bangkok, Come See About Me, Clap Your Hands, Madonna's Eyes ฯลฯ แม้ว่าในปัจจุบันก็ยังพอได้ยินบ้างตามหนังกลางแปลงที่เน้นโชว์เครื่องเสียงตามภาคกลาง

เพลงสากลในยุค 90 นอกจาก 2 เพลงที่ฮิตอย่าง Have You Ever Seen The Rain ? กับ I Hate Myself For Loving You แล้ว ก็ยังมี Lambada, Sunburn (เพลงสากลที่แปลงจากเพลง "บังเอิญติดดิน" ของ อัสนี-วสันต์) จนเข้าสู่ยุค "แร็พ" อย่างเพลง No Coke รวมทั้งเพลง "แร็พแขก" ที่มีชื่อเพลงที่สะกดเป็นภาษาอังกฤษว่า (Boliyaan) Gurnalon Isho Mitha

ลองเข้าไปฟังดูนะครับแค่เขียนชื่อเพลงตามที่เราต้องการครับแล้วเพลงจะมาให้เราฟังตามใจชอบเลยครับhttp://www.4shared.com