วันนี้ขอนำเสนอภาพยนตร์ไทย ประเภทเบาสมอง พร้อมเนื้อหาที่เกี่ยวกับวัยรุ่นและเพลงจาก แกรมมี่ ภาพยนตร์ (ก่อนที่จะยุบและเปลี่ยนมาเป็น จีทีเอช ในปัจจุบัน)  ซึ่งเข้าฉายเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2540 ในเรื่อง จักรยานสีแดง ครับ

หลังจากที่หนังออกจากโรงมาแล้ว ก็ได้มีการผลิตเป็นวิดีโอ เทป VHS จัดจำหน่ายโดย บริษัท แกรมมี่ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ส่วนการจำหน่ายสำหรับศูนย์เช่า ได้ให้ บริษัท ซีวีดี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งตลับเทปจะบรรจุในกล่องกระดาษแข็ง ขณะที่ของแกรมมี่จะบรรจุลงกล่องพลาสติก ราคาตอนนั้นประมาณ 2 หรือ 3 ร้อยกว่าบาท ผมเองก็ซื้อมาดูเหมือนกัน ซึ่งเป็นแบบกล่องกระดาษแข็ง ผลิตโดย CVD นั่นแหละครับ ราคา 150 บาท ก่อนที่จะหายไป เนื่องจากห้องที่ผมพักในหอพักตอนนั้นมีขโมยเข้ามาลักไปครับ

กระทั่งปลายปี พ.ศ. 2544 ทาง แกรมมี่ ฯ ก็ได้มีการผลิตเป็นวีซีดีออกมาวางจำหน่ายร่วมกับภาพยนตร์เรื่อง คู่กรรม , อันดา กับ ฟ้าใส , O - NEGATIVE รักออกแบบไม่ได้ , กำแพง และ ยุวชนทหาร ฯ ในลักษณะซองกระดาษแข็ง ราคาไม่ถึงร้อย จากแรก ๆ ที่ยังพอหาซื้อได้ จนกระทั่งเริ่มหาซื้อยากขึ้นเรื่อย ๆ จึงเริ่มมีเสียงเรียกร้องของแฟนภาพยนตร์กลุ่มหนึ่งที่ยังประทับใจภาพยนตร์เหล่านี้อยู่ ประกอบกับช่วงนั้นก็มีการเสาะแสวงหาภาพยนตร์เหล่านี้เมื่อครั้งยังอยู่ในรูปแบบแผ่น VCD แต่อย่างที่บอกล่ะครับ หายากมาก ๆ ดังนั้นจึงได้มีคนที่สะสมแผ่นภาพยนตร์ส่วนหนึ่งที่ยอมเสียสละได้นำแผ่นดังกล่าวมาไรท์ลงแผ่น CD - R หรือ DVD - R (ในนั้นก็มีผมด้วยครับ โดยจัดทำให้แบบไม่เสียค่าใช้จ่าย) ออกมาด้วย

กระทั่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ ทางแกรมมี่ ฯ ก็ได้ตัดสินใจนำภาพยนตร์เหล่านี้และที่รีแบรนด์มาเป็น GMM PICTURES อย่าง กุมภาพันธ์ ในรูปแบบ DVD ซึ่งหาซื้อได้ตามร้านใหญ่ ๆ ครับ

ภาพยนตร์เรื่องนี้ ดัดแปลงจากนวนิยายเรื่อง จักรยานแดงในรั้วเขียว ของ ดำรง อารีกุล และได้ 2 ผู้กำกับในขณะนั้นก็คือ คุณยุทธนา มุกดาสนิท และ คุณนิพนธ์ ผิวเณร ได้นำนักร้องวัยรุ่นที่มีชื่อเสียงในตอนนั้นอย่าง มอส; ปฏิภาณ ปฐวีกานต์ และ อมิตา ยัง (ชื่อจริงของเธอคือ อมิตา มาเรีย ยัง ส่วน ทาทา นั้น สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นชื่อเล่นครับ และก็นำมาใช้เป็นชื่อที่ใช้เรียกเธอในวงการ) และก็ยังมีนักแสดงวัยรุ่นร่วมค่ายอย่าง เอกชัย เอื้อสังคมเศรษฐ์ , รัฐพล จุลเปมะ , มนัส พันธ์จำนงค์ (เพื่อนซี้ของมอส ในเรื่อง และรัฐพล ก็เป็นหนึ่งในสมาชิกวง U.H.T.) , กัลยา เลิศเกษมทรัพย์ ในบท ครูญาดา , คู่แฝด แก้วเก้า - เนาว์มณี เสนสอน (เพื่อนซี้ของทาทา ยัง ในเรื่อง) , จันทร์เพ็ญ อินทะจักร์ (ชื่อจริงของนางแบบเซ็กซี่ที่ชื่อว่า แชมเปญ เอ็กซ์) และยังมีนักแสดงรับเชิญ อย่าง คุณทรงวิทย์ จิรโสภิณ หรือ หมอซ้ง ก็ร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้ และนักแสดงประกอบอีกมาก

ในเรื่องนี้ กล่าวถึง การใช้ชีวิตของวัยรุ่นในมหาวิทยาลัย ซึ่งมีแต่ความวุ่นวายปวดเศียรเวียนเกล้าอยู่เสมอ เมื่อ วาที (มอส ปฏิภาณ) เด็กหนุ่มที่เพิ่งก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย ในวันแรก และได้เจอกับ ขม (ทาทา ยัง) สาวน้อยอัจฉริยะที่สอบเทียบได้ ขมสนใจในตัววาที ทว่า...วาทีกลับไปชอบ เปรี้ยว (แชมเปญ เอ็กซ์) เจ้าของจักรยานสีแดง ซึ่งก็มีหนุ่ม ๆ ในมหาวิทยาลัยต่างก็พากันรุมจีบเช่นกัน

ส่วนวาทีก็คิดแผนที่จะได้ใกล้ชิดกับเปรี้ยวโดยการขอยืมจักรยานสีแดง แต่กลับไขกุญแจรถผิดคัน (เป็นของรุ่นพี่อาวุโส ที่เอาระบบ "โสตัส" มาบังคับข่มเหงรุ่นน้องซะนี่) เลยกลายเป็นว่า เป็นขโมยไปซะเลย

ส่วน สุคนธ์ เพื่อนซี้ของวาทีตกหลุมรัก อาจารย์ญาดา (กัลยา เลิศเกษมทรัพย์) โดยหารู้ไม่ว่ามีคู่หมั้น (รับเชิญโดย ภิญโญ รู้ธรรม) อยู่แล้ว ทำเอาสุคนธ์ถึงกับ HURT เลยทีเดียว

ช่วงการสอบปลายภาคมาถึง สุคนธ์ได้ก่อเรื่องวุ่น ๆ ขึ้นมา ทำให้วาทีซึ่งกำลังทำข้อสอบอยู่นั้นต้องไปห้ามปราม แต่กลับกลายเป็นว่า อาจารย์ตัดสินให้วาทีสอบตก จนขมต้องไปขอความเห็นใจอาจารย์เพื่อให้วาทีสอบใหม่อีกครั้ง จนในที่สุด วาทีก็สอบผ่านและยังได้รู้ว่า จักรยานสีแดงที่ถูกคนถูกคันก็คือขมนั่นเอง

เมื่อเป็นหนังที่มีเนื้อหาวัยรุ่นจ๋าขนาดนี้ แถมนักแสดงนำก็เป็นนักร้องในค่ายแกรมมี่เสียด้วย ถ้าไม่พูดถึงเพลงประกอบในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ขาดองค์ประกอบไปอย่างแน่นอน

สำหรับเพลงประกอบในภาพยนตร์นั้น มี 2 ส่วนครับ ส่วนแรกเป็นงานเพลงของ LOSO (เต็มวง ยังไม่ได้ออกเดี่ยวเหมือนตอนนี้) ซึ่งเป็น SPECIAL ALBUM เพลงประกอบภาพยนตร์ จักรยานสีแดง จากค่าย มอร์ มิวสิค วางจำหน่ายหลังจากที่ชุดแรก ก็คือ LO SOCIETY ประสบความสำเร็จอย่างสูง มียอดขายล้านตลับ จนทำให้มีการเปลี่ยนปก และเพิ่มเพลง "ไม่ต้องห่วงฉัน" [Version โดด] และ "ไม่ตายหรอกเธอ" เข้าไปด้วย ส่วนในอัลบั้ม เพลงประกอบภาพยนตร์ จักรยานสีแดง นั้น มี 10 เพลง แบ่งเป็น 5 เพลงร้อง กับ 5 เพลงที่เป็น Backing Track คือมีดนตรีอย่างเดียว คือ จักรยานสีแดง , โลกใบใหม่ , แทบขาดใจ , เคยบอกว่ารักกัน และ เด็กเอ๋ยเด็กน้อย ในภาพยนตร์ใช้เฉพาะ 4 เพลงแรกครับ กับอีก 2 เพลงพิเศษ จากอัลบั้ม LO SOCIETY

ส่วนที่สองเป็นงานเพลงที่อยู่ในอัลบั้ม MOS & TATA ซึ่งวางจำหน่ายเมื่อต้นปี พ.ศ. 2540 มี 10 เพลง ก็คือ ทิ้งกันได้ไง , เพียงเพื่อน , แมลง , รักเลยดีกว่า , ฉันรักเธอ [Mos Version] , ดูไม่ออก , หันมามองกัน , ขอเธอคนเดิม , มองอะไร และ เหลวไหล [Tata Version] ซึ่งในหนังใช้แค่ 8 เพลง ยกเว้นเพลง ดูไม่ออก และเหลวไหล [Tata Version] ทั้งสองอัลบั้มนี้ผลิตในรูปแบบเทป คาสเซ็ท และซีดี ราคาของเทป คาสเซ็ท อยู่ที่ 80 บาท ส่วนซีดี ของโลโซ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะร้อยกว่าบาทนี่แหละ เพราะเป็น E.P. Album ส่วนอัลบั้ม มอส & ทาทา ราคาปก 290 บาท ขายจริงประมาณ 250 บาท (นี่เป็นราคาขายในนครสวรรค์ สมัยผมเรียนอยู่นะครับ อ้างอิงจากร้าน ว. ศรีวิรุฬ ซึ่งเป็นร้านประจำที่ผมไปซื้อบ่อย ๆ อีกอย่างหนึ่งตอนนั้น MP 3 เริ่มเข้ามาแล้วนะครับ แต่ราคาขายต่อแผ่นแพงมาก ๆ ราว 3 - 4 ร้อยบาทประมาณนี้แหละ) อีกอย่างหนึ่ง ทางแกรมมี่เองก็ได้มีการผลิตซีดี ซิงเกิ้ล ชุดนี้เพื่อดึงดูดใจ ในลักษณะซีดีแผ่นใส ขนาดมาตรฐาน แต่มีแค่ 2 เพลงแรกที่กล่าวไปข้างต้น ผมเองก็ซื้อมาไว้และก็หายไปตอนถูกขโมยนั่นแหละครับ

เมื่อนำมาประกอบในภาพยนตร์ จึงได้มีการเรียงลำดับเพลง ดังนี้ครับ

  1. ไม่ต้องห่วงฉัน [Version โดด] / / LOSO {เพลงเปิดเรื่อง}

  2. โลกใบใหม่ / LOSO {เพลงไตเติล}

  3. มองอะไร / มอส

  4. หัวใจลัดฟ้า / มอส (อยู่ในอัลบั้ม Moving Mos ดังภาพปกซึ่งเป็นซีดี ซิงเกิ้ล)

  5. แทบขาดใจ / LOSO

  6. รักเลยดีกว่า / มอส & ทาทา ยัง

  7. เพียงเพื่อน / มอส & ทาทา ยัง

  8. แพ้ตลอด / มอส (อยู่ในอัลบั้ม Mos เอ้อเฮอ ซึ่งเก่ามากแล้ว)

  9. จักรยานสีแดง / LOSO

10. เหลวไหล / มอส (ทำดนตรีขึ้นใหม่ เพื่อใช้ในภาพยนตร์เรื่องนี้ และไม่พบในอัลบั้มเก่า)

11. ฉันรักเธอ / มอส (ของเดิมคือ ทาทา ยัง เป็นเพลงช้า อยู่ในชุด ฉลอง 1 ล้านตลับ)

12. แมลง / ทาทา ยัง (ใครที่เรียนวิชากีฏวิทยา ว่าด้วยแมลง เอาไปใช้ได้เลย)

13. ไม่ตายหรอกเธอ / LOSO

14. ทิ้งกันได้ไง / มอส & ทาทา ยัง

15. เคยบอกว่ารักกัน / LOSO

16. ขอเธอคนเดิม / ทาทา ยัง

17. หันมามองกัน / มอส & ทาทา ยัง {End Credit}

นี่ยังไม่นับรวมดนตรีประกอบ (Score) ที่ใช้ในเรื่องนะครับ

มาที่เรื่องหลุด ๆ ซึ่งได้มาจากข่าวในหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับเบื้องหลังการถ่ายทำบ้าง และตอนออกฉายจริงครับ

* การถ่ายทำฉากขี่จักรยานนั้น บางฉากมอสแสดงเอง ยกเว้นฉากที่ขี่จักรยานผาดโผนจะใช้สแตนด์อิน ตัดสลับไปมา

* มอส ปฏิภาณ นั้น กลัวแมลงสาบเป็นที่สุด ซึ่งการถ่ายทำในฉากนี้กว่าจะผ่านไปได้แทบทุลักทุเลเลยครับ

* ฉากนี้ได้เตี๊ยมกันโดยผู้กำกับและมอส ปฏิภาณ โดยที่ทาทา ยัง ไม่ทราบมาก่อน ผลก็เลยได้ภาพอย่างที่เห็นแบบเทคเดียว

* อาจารย์ที่รับบทโดย หมอซ้ง ทรงวิทย์ จิรโสภิณ นั้น ขณะถ่ายทำได้หลุด   โดยเอ่ยชื่อจริงของทาทา ยัง  และไม่ได้แก้ไขเมื่อตอนตัดต่อ จนกระทั่งเมื่อหนังออกฉายแล้ว  ก็เลยต้องปล่อยเลยตามเลย

* เมื่อหนังออกฉาย ฉากที่ได้รับการกล่าวขวัญ ก็คือ ฉากนี้...

ว่ากันว่าทีมงานคงไม่ได้ตั้งใจที่จะให้เกิดภาพนี้ขึ้น และคิดว่าเป็นฉากที่ดูแล้วไม่น่าเกลียดอะไร แต่เมื่อปรากฏขึ้นมาแล้ว ทำให้หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ คอลัมน์บันเทิง ที่อยู่ข้าง ๆ โปรแกรมภาพยนตร์ ได้เขียนแซว คุณดวงตา ตุงคะมณี ประมาณหยิกแกมหยอก พิธีกรรายการ สี่ทุ่มสแควร์ ในตอนนั้นด้วย

ส่วนรายได้ของภาพยนตร์เรื่องนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จพอสมควร แม้ว่าในขณะนั้นจะเกิดวิกฤติเศรษฐกิจขึ้นมา และจำนวนหนังไทยก็ค่อย ๆ ลดลงไปด้วย

มาถึงปีนี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็จะครบ 1 รอบ หรือ 12 ปี พอดี แม้จะไม่ได้มีการฉายครบรอบเหมือนในต่างประเทศ แต่เชื่อว่าผู้ชมในบ้านเราที่เคยได้ชมเรื่องนี้ ก็คงจะได้สัมผัสถึงกาลเวลาและความเปลี่ยนแปลงของนักแสดงในเรื่อง ซึ่งเห็นอย่างได้ชัดเจน แต่ชีวิตและความวุ่นวายของวัยรุ่นตอนปลายอย่างในหนัง ยังพอมีให้เห็นอยู่บ้างในยุคปัจจุบัน

ขอปิดท้ายด้วยภาพกึ่งมิวสิค ฟิล์ม เพลง เพียงเพื่อน และ เพลง แมลง

ขอเชิญ COMMENT ได้ตามอัธยาศัยครับ

เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ถือว่ากระแสแรงมากๆครับช่วงนั้น ผมทำงานอยู่ร้านเช่าวีดีโอ ( ตอนนั้นผมก็ยังวัยรุ่น )

ผมเคยมี เทปเพลงประกอบภาพยนตร์ ของ LOSO รู้สึกว่า หน้า A กับหน้า B จะเหมือนกันทั้งสองหน้า ถ้าจำไม่ผิด (ถ้าผิดก็ขออภัยนะครับ) เพราะเทปหายไปแล้ว..

มีการกรอกลับ แล้ว slow หยุดดูอีกต่างหาก

55555555555555555555555555555555

ฉากโรงเรียนเค้าไปถ่ายกันที่ไหนหรอครับ

ใช่โรงเรียนนายร้อย จปร. หรือป่าวคับ

หรือแค่คล้าย ๆ