ชัยเจริญ ดวงพัตรา นักพากษ์ อัจฉริยะ สร้างตำนาน
จนได้รับ ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ 
ท่านเรียบเรียงทำบทพากษ์เองทุกเรื่อง
เวปพีเพิลซีนร่วมกับนสพ.มติตรัง นำเสนอ

เจริญชัย เรียบเรียงบท กำหนดให้ ชัยเจริญพากษ์ นี่คือวลีเด็ดที่ทำให้ผู้ฟังคนดูหนังภาคใต้ทุกจังหวัด ตั้งแต่ตรัง หาดใหญ่ ชุมพร สตูล นราธิวาส ปัตตานี ภูเก็ต สุราษฎ์ธานี กระบี่ นครศรีธรรมราช ต่างสะใจและได้เฮและปรบมือลั่น ต้อนรับทุกรอบ หน้าโรงหนัง ชื่อ ของ ชัยเจริญ ขึ้นตัวใหญ่กว่าชื่อหนัง....อาจารย์ชัยเจริญนักพากษ์ ท่านนี้ไม่ใช่ธรรมดาแล้วเป็นครูของคุณโต๊ะพันธมิตรหัวหน้าทีมพากษ์คุณปริภัณฑ์ วัขรานนท์ที่ดังที่สุดนับถือท่านเป็นอาจารย์การพากษ์ พี่โต๊ะ หัวหน้าทีมพากษ์พันธมิตรได้ดูแล

ติดตามท่านมาตั้งแต่หัดพากษ์หนังที่หาดใหญ่ ผู้เขียนในนามนสพ.มติตรังติดต่อ ผ่านลูกศิษย์คนสนิทอดีตนักพากษ์ของท่าน ชื่อคุณสายสุดา เพื่อขออนุญาต นำประวัติข้อมูลของ อ.ชัยเจริญนำมาเสนอในมติตรัง คุณสายสุดาไปเรียนท่าน อ.ชัยเจริญบอกว่าขอบคุณมาก และยินดีให้นาย วิวัย จิตต์แจ้งนักเขียนยุคใหม่ เป็นลูกชายของ คุณเว้ง จิตต์แจ้ง เจ้าของทับเที่ยงภาพยนตร์ จะเขียนถึงผมชัยเจริญฝากบอก จะเขียนก็รีบเขียนนะลูกหลานเอ๋ย ชัยเจริญปีนี้ 96 ปีแล้วเขียนเสร็จส่งหนังสือพิมพ์ให้ผมอ่านด้วย ผมชัยเจริญจะได้อ่านเรื่องราวนี้เมื่อผมชัยเจริญตอนยังมีชีวิตอยู่.

. 
ชัยเจริญ ดวงพัตรา ท่านเกิดเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ปี 2465 นับถึงปี 2560 ท่านมีอายุครบ 96 ปีเต็ม ท่านเขียนหนังสือเกี่ยวกับการพากษ์ไว้หลายเล่มเช่นคุย

เรื่องนักพากษ์หนัง นักพากษ์ผู้ยิ่งใหญ่ คุยเฟื่องเรื่องนักพากษ์ กะเทาะเปลือกนักพากษ์ และเรื่องเรือนรักเรือนทาษและเรื่องอื่นๆอีกมากมายหลายเล่ม ฯลฯ ปัจจุบันท่านยังสุภาพดีตามสมควรกับผู้สูงวัย คุณโต๊ะพันธมิตรจัดเลี้ยงวันเกิดให้ท่านทุกปี

ท่านพักอยู่กับลูกหลานที่กรุงเทพฯมีความสุขและอบอุ่นอ.ชัยเจริญเป็นผู้ประกอบวิชาชีพมีผลงานโดดเด่นในสาขานิเทศศาสตร์ท่านได้ เคยก่อตั้งหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นฉบับแรกของจังหวัดนครศรีธรรมราช และท่านเป็นนักเขียน

เรื่องสั่นและนวนิยาย เคยเป็นผู้สร้างภาพยนตร์ด้วยการเขียนเรื่องเขียนบท ตัดต่อและพากษ์ ชัยเจริญ เป็นนักพากษ์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของภาคใต้สามารถตรึงผู้ชมอย่างมีอรรถรสเป็นที่ชื่นชอบติดอกติดใจของผู้ชมทั่วไป อ.ชัยเจริญท่านสามารถสร้างสรรค์งานวรรณกรรมจนท่านได้รับรางวัลธนาธิปจากสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทยพศ.2549 ท่านยังได้รับมอบปริญญาศิลปศาสตร์บัณฑิตกิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช สาขานิเทศศาสตร์การพากษ์

ท่านบอกว่าโรงภาพยนตร์ นครภาพยนตร์ นครศรีธรรมราช เป็นสถานที่กำเนิดในการเป็นนักพากษ์ครั้งแรกของผมเรื่องมีอยู่ว่าตอนนั้ยอายุ20ปี พอเรียนจบม6มา ก็อยากเป็นนักพากษ์ใจผมรักศิลปะด้านนี้อาศัยแฟนเป็นหลานเจ้าของโรงหนังจึงได้มาฝึกหัดทำบทพากษ์ซ้อมพากษ์อาศัยผมเป็นคนช่างจำและนำ

หนังออกไปฉายที่ต่างๆและพากษ์เองจนชำนาญ ต่อมาได้เป็นเจ้าของโรงหนังเจริญชัยสงขลาเดิมชื่อคิงส์สงขลา และเป็นผู้บริหารหลายโรงหนัง หลายจังหวัดอยู่ ถึง 6 โรงรวมที่นครศรีธรรมราชด้วยขาดทุนบ้างกำไรบ้างก็สู้กันไป ไม่เคยท้อผมพากษ์ตั้งแต่ปี 2485จนถึงปี 2532เลี้ยงลูกและครอบครัวจนจบหมดต่างแยกเรือนกันไป ช่วงบั้นปลายผมมาเขียนหนังสิอ อาศัยเตยทํา นสพ.มาก่อน

ย้อนกลับไปยุคโรงหนังเฟื่องฟูเมื่อประมาณ40- 50ปี ที่ตรังแล้วชัยเจริญคนเดียวที่ถูกเขียนชื่อตัวโตใหญ่เด่นชัดบนแผ่นคัตเอาค์หน้าโรงหนังทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นโรงหนัง คิงส์ เฉลิมรัฐ แกรนด์ตรัง หรือ ศรีเมือง เฉลิมตรัง คนจะแห่มาดูเพื่อฟังเสียงพากษ์ของอ.ชัยเจริญ รถราคึกคักคนต่างอำเภอ หรือจังหวัดใกล้เคียงแห่เหมารถกันมาชมทุกรอบแน่นขนัดในตรังเอง สามล้อเงียบมาดูหนังกันหมดมีการจองตั๋วล่วงหน้ากันเลย

พอรู้ว่า ชัยเจริญพากษ์ จากรถแห่หนัง เย็นนั้นร้านค้าปิดเร็วขึ้น เพื่อไปดูหนังเสียงพากษ์ชัยเจริญ กันหมดจนต้องเสริมเก้าอี้เพื่อรองรับผู้ชมมากมาย และนี่คือผู้สร้างตำนานที่ครั้งหนึ่งปรากฏการนี้ ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์การพากษ์หนังของอ.ชัยเจริญ ดวงพัตราในภาคใต้ โดยมีภาพยนตร์ดังๆที่ท่านเคยพากษ์

ท่าน เก่งมีเทคนิกลูกเล่นสารพัดโดยใช้วิธีเล่าเรื่องประกอบแบบเน้นน้ำเสียงการบรรยายจึงมีส่วนช่วยให้หนังแต่ละเรื่องดูเข้าใจสนุกมีคุณค่ามากขึ้นเหมือนเล่านิทานเช่นบรรยายความรู้สึกของตัวแสดงบางครั้งเป็นบทกลอนและสรุปให้เข้าเนื้อหาให้ผู้ชมเข้าใจ ผมเองต้องไปค้นคว้าหาความรู้มาเล่าประกอบยิ่งหนังอิงประวัติศาสตร์นี้สำคัญมากต้องมีความความรู้ด้วยไม่ใช่พากษ์ตามบทอย่างเดียวด้วยการพากษ์ จึงมีศิลปะชั้นเลิศด้วยพรสวรรค์วาทะศิลป์พิเศษสามารถพากษ์

ได้หลายเสียงเขาเรียกท่านว่ามนุษย์ 7 เสียงพากษ์ ได้อรรถรสแบบสะใจจนคนเหมือนถูกมนต์สกดคนดูหนัง กรีด เฮฮาสะใจแบบกระทืบเท้าเป่าบากปืดๆๆบอกชัยเจริญพากษ์ หรอย หรอย ๆๆๆมันต้องอย่างงี้ซิ เช่น เรื่อง ป้อมปินนาวาโลน บัญญัติสิบประการ เบนเฮอร์ เอลซิด ไซโค แช้ม ศึกระฆังทอง จอมสลัดแดง ซูสีไทเฮา ร็อกกี้ คารธี สตาร์วอร์ มือปืนเพชรตัดเพชร จอมจักรพรรดิ์เจงกิสข่าน โรมิโอ จูเลียด แดร็กคูล่า 12 แดนตาย รถด่วนมฤตยู ร็อกกี้ 7 เจ็ดสิงห์แดนเสือ ฯลฯ

อ.ชัยเจริญบอกว่าเรื่องเบนเฮอร์ พากษ์มันส์จริงๆบทจูดา เบนเฮอร์ กับเมสสรา ใส่กันมันส์มากโดยเฉพาะแข่งม้าในสนามโรมันประทับใจคนดูผมตั้งใจพากษ์เต็มความสามารถมีทีเด็ดใส่หมด หนังยิ่งใหญ่ ระบบ 70 มม คนดูแน่นมาก อ.ชัยเจริญมาบริหารโรงหนังศรีเมืองที่ตรังเองเปลี่ยนเป็น ชื่อแกรนด์ตรัง แต่เรื่อง

ไหนๆไม่ใหญ่โตมโหราฬ เท่ากับ BEN HUR ตอนฉายที่ตรัง มีผู้คนจากกระบี่ นครศรีธรรมราช พัทลุง กระบี่ เขายกขบวนกันมาดูอย่างน่าตกใจ เนื่องเพราะผมชัยเจริญมีแคมเปญสุดพิเศษ ประกาศตั้งตัวแทนบุ๊คตั๋วตามที่ต่างๆ เช่นตามอำเภอและจังหวัดใกล้เคียง แม้กระทั่งทุ่งสง นาบอน จันดี ก็บุ๊คได้เลย โดย ชัยเจริญอาศัยเพื่อนฝูงญาติพี่น้อง ช่วยรับจองบัตรล่วงหน้าในที่ต่างๆ...

เล่นเอาตื่นเต้นกันไปทั่วบ้านทั่วเมือง เห็นจะไม่ต้องบอกกระมั่งว่าที่นั่งเสริมแล้วเสริมอีก ไปเช่าเก้าอี้ที่อื่นมามาเพิ่มก็ยังไม่พอ ขนาดตั๋ว..ยืนยังเอา..ยอมยืนกันขาแข็ง 3 ชั่วโมงครึ่งหนังยาว ยังยอมทรมาทรกรรมเกินสมควร ต้องยกย่องน้ำใจผู้ชม ซึ่งเป็นแฟนขาประจำมีมากทุกจังหวัดภาคใต้แฟนคลับมีทุกรุ่น
MACKENNA S COLD ขุมทองแมคแคนน่า นี่ก็ใช่เลยพากษ์มันส์จริง

สุดยอดภาพยนตร์คาวบอย เป็นเรื่องหนึ่ง ที่อ.ชัยเจริญ ท่านบอกว่าพากษ์สนุกมากๆคนดูถูกใจเฮกรีดกันทุกรอบ โอ้สนุกจริง จึงขอนำมาเสนอ หนังคาวบอยก็สนุกดีเหมือนกัน พากษ์แล้วจิตใจคึกคัก มีเสียงระเบิด มีอินเดียแดง เป็นหนังเพ้อฝันกลายๆ หนังคาวบอยที่ผมชอบมากๆ และพากษ์ได้มันส์มากๆ ได้แก่เรื่องขุมทองแมคแคนน่า เรื่องนี้ผมชัยเจริญพากษ์ได้มันจริงๆ พอเปิดไตเติลขี้นมาก็มีภาพอีแร้งบินก่อน

ว่อนไปหมดทั้งจอ แร้งเป็นสัตว์แสนรู้ มันรู้ว่าคนกลุ่มเหล่านั้นจะต้องไปตาย ให้มันได้กินซากศพแน่นอน เพราะมันได้กินมาตลอดชั่วอายุของมัน กินคนที่คลั่งไคลขุมทอง ที่แห่กันมาตายที่นั่น นับเป็นจำนวนไม่ถ้วน.... วันนี้มันมาอีกแล้ว... แห่กันมาทั่วสารทิศจะไปขุดทองกัน

มีทั้งพระเอก เกกอรี่ เพก มีทั้งตัวโกงอย่าง โอมา ชารีฟ แถมด้วย เทลลี่
ซาวาราส ยกขบวนใหญ่ไปยังขุมทอง ระหว่างทางก็กัดกันเองบ้าง รวมกับอินเดียแดงบ้าง ยิงกับนักเลงที่คอยดัก จะไปร่วมขุดทองด้วย
ตื่นเต้นสนุกและบันเทิงตลอดทาง กว่าจะไปถึงหน้าผาขุมทองในตอนจบ มีครับที่นั่นมีทองจริงๆ ... แต่ใครจะได้ทอง?

หรือได้เป็นศพให้อีแร้งกิน หรือรับประทาน ก็ต้องหาชมกันเองล่ะครับ
เล่าไปจะไม่สนุก ผมชอบเสียงของ โอมา ชารีฟ ตัวร้าย ขนาดผมชัยเจริญพากษ์เองยังมันส์ ไม่รู้ชัยเจริญพากษ์ ยวน ย่า เหล ไปได้ยังไง
นั่นเป็นหนังประเภทคาวบอยดูเอาสนุก ยิงกัน เปรี้ยงปร้าง ชกต่อยกัน
หักหลังกัน ฆ่ากันเป็นผักเป็นปลา แต่หนังสนุกแบบนี้ สมัยนี้ไม่มีเลย
ขอขอบพระคุณอ.ชัยเจริญ ดวงพัตรา กับข้อมูลและภาพถ่ายมาประกอบบทความ ขอบคุณคุณนิธิวิทย์ แอ็ดพีเพิลซีน ทีมอบ DVD เรื่องเอลซิด พร้อมเสียงพากษ์ ชัยเจริญมาให้ขอบคุณข้อมูลจากคุณสายสุดา ขอบคุณข้อมูลจากอ.อนันต์ สร้อยมณี และคุณมนัส กิ่งจันทร์ ขอบคุณผู้ติดตามทุกท่านครับ