หนังกลางแปลง,โรงภาพยนตร์,เครื่องฉายภาพยนตร์,ฟิล์มภาพยนตร์,โปรเจคเตอร์

ย้อนอดีตวันหวานยังหวานอยู่	อ่าน	ตอบ	ผู้ตอบหลังสุด
-ELVIS PRESLEY Aloha From Hawaii;	1970	3	.. 10/11/2562 22:59
-80ปี Gone With The Wind	1479	0	ยังไม่มีคนตอบ
-Burt Lancaster	1491	0	ยังไม่มีคนตอบ
-ดอกดินรำลึก	1669	2	.. 15/10/2562 11:26
-Great stars Vintage - มิตร ชัยบัญชา	1490	0	ยังไม่มีคนตอบ
-Farrah Fawcett	1450	0	ยังไม่มีคนตอบ
-รําลึกถึงมิตร ชัยบัญชาปี 2562 จากไปครบ 49 ปี	1621	0	ยังไม่มีคนตอบ
-Raquel Welch	1582	0	ยังไม่มีคนตอบ
-”หลันเจี๋ยอิง”(1963-2018)	1598	0	ยังไม่มีคนตอบ
-ครูประเทือง บุญญประพันธ์	3165	4	.. 29/8/2562 23:14
-BRUCE LEE	1729	0	ยังไม่มีคนตอบ
-Clark Gable	1506	0	ยังไม่มีคนตอบ
-Rock Hudson	1627	0	ยังไม่มีคนตอบ
-John Wayne	1627	0	ยังไม่มีคนตอบ
-คุยนิด...สะกิดใจ กับ ป๋อ ณัฐวุฒิ : พี่เป้า ปรปักษ์ ผู้กำกับคิวบู๊ชื่อดัง	1665	0	ยังไม่มีคนตอบ
-หลอ ฮุยกวง \| วิโรจน์ แซ่โล้ว	1792	0	ยังไม่มีคนตอบ

ดอกดินรำลึก

วันนี้ทราบข่าวการเสียชีวิตของอาดอกดินตอนสายๆ ฝนพรำๆ กำลังออกเดินทางไปประชุม ยุ่งทั้งวันเพิ่งจะกลับถึงคอนโด เลยขอเขียนถึงท่านบ้าง

ในชีวิตนี้เคยมีโอกาสไปบ้านคุณอาอยู่หนหนึ่ง เพื่อสัมภาษณ์ถึงชีวิตและการทำงานของแก บ้านที่อาดินอยู่เหมือนในหนังที่แกถ่ายเปี๊ยบ เพราะใช้บ้านเป็นโลเคชั่นหลักแทนบ้านพระเอกในเรื่องน่าจะตั้งแต่หนัง "คนกินเมีย" (2517) ที่มีฉากขายคือสมบัติว่ายน้ำยั่วเย้ากับ ดลนภา โสภี ในชุดว่ายน้ำสีแดงสด นั่นแหละครับ สระในบ้านอาดินเอง

ผมรู้จักชื่อ "ดอกดิน" ครั้งแรกจากคุณแม่ ที่มักเล่าเรื่อง "นกน้อย" (2507) และต่อมาก็ได้ฟังตำนานที่ว่า เมื่อหนังนกน้อยเข้าฉาย อาดอกดินเดินวนลุ้นอยู่หน้าโรงแทบทุกวัน ลุ้นรายได้จะถึงล้านหรือไม่ จนกระทั่งมีแม่ลูกอ่อนท่านหนึ่งมาซื้อตั๋ว (น่าเสียดายที่ไม่ใช่คุณแม่ผม) ทำให้รายได้ครบล้านพอดี คุณอาดอกดินจึงตบรางวัลให้คุณแม่ลูกอ่อนท่านนั้นด้วยการไปซื้อทองมาให้แกเป็นรางวัลเส้นหนึ่ง

มาได้ดูหนังของแกจริงๆ เมื่อคราวกลับมาออกแผ่นดีวีดีอยู่หลายเรื่อง ไล่ตั้งแต่ ไทยใหญ่ (2513) ม้ามืด (2513) ไก่นา (2514) ไอ้ทุย (2514) สายฝน (2516) คนกินเมีย (2517) แหม่มจ๋า (2518) มือปืนพ่อลูกอ่อน (2518) กุ้งนาง (2519) สิงห์สำออย (2520) ไอ้ 8 นิ้ว (2521)

ถ้าถามว่าหนังอาดอกดินมีจุดเด่นอย่างไร นอกจากเป็น "หนังครบรส" อย่างที่หลายคนพูดกันไปกว้างๆ แล้ว สิ่งหนึ่งที่ค่อนข้างชอบและหาไม่ค่อยได้จากหนังเรื่องอื่น คือท่าทีอันเป็นมิตรกับชาวบ้าน โดยวิธีที่ให้ชาวบ้านเป็น "ส่วนหนึ่งของหนัง" เสมอๆ การเล่นกับผู้ชมของอาดอกดินคือการถ่ายฉากใหญ่โดยเปิดให้ชาวบ้านทั่วไป เข้ามาร่วมฉากในฐานะไทยมุง อาทิใน "คนกินเมีย" (2517) มี 2 ฉากใหญ่ๆ ที่ใช้วิธีการนี้คือ ฉากสมบัติกระโดดตึกโรงแรม และฉากสมบัติขับรถพุ่งชนร้านทำผมของนางเอก

เมื่อชาวบ้านมุงเข้ามาในฉากนั้นๆ อาดอกดินได้แปรสภาพ "ฉากหนัง" ให้กลายเป็นการเล่นจำอวดกลายๆ มักจะเป็นอาเองเข้าฉากเล่นตลกร่วมกับคู่ขวัญ (คุณอรสา อิศรางกูร ณ อยุธยา) และมีพระเอก-นางเอกของเรื่องร่วมฉากด้วย ความสนุกในฉากจึงมีทั้งเสียงเชียร์และรีแอคชั่นของเหล่าชาวบ้าน และการเล่นตลกของนักแสดงเองผสมกัน

นั่นทำให้คนดูกับหนังของดอกดิน มีระยะใกล้ชิดกันเป็นพิเศษ ดาราในหนังดอกดินเองก็กลายเป็นคนพิเศษสำหรับคนดูขึ้นมา คือมีความเป็นคนรู้จัก ญาติมิตร หรือแม้แต่ลูกหลานแถวบ้าน เราจึงมักเอาใจช่วยพระเอก-นางเอกในหนังดอกดินได้โดยสนิทใจ

ถ้าไล่ดูรายชื่อหนังที่แกทำมาตลอดชีวิต จะเห็นว่าแกทำหนังตั้งแต่ยุค 16 จนถึงยุค 35 แนวหนังค่อนข้างหลากหลาย มีทั้งหนังลูกทุ่ง (ไอ้ทุย) หนังล้อเจมส์ บอนด์ (ไอ้ 8 นิ้ว) หนังปราบผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ (สิงห์สำออย) หนังบู๊ภูธร (มือปืนพ่อลูกอ่อน) หนังข้ามเพศ!! (คนกินเมีย/กุ้งนาง) คราฟท์หนังสวิงสวาย ทำได้ตั้งแต่มู๊ดลูกทุ่ง ลูกกรุง จนถึง Psychedelic!!

นอกเหนือจากนั้น นางเอกของหนังแกต้องสวยสุดทุกเรื่อง เพชรา เชาวราษฎร์ ในชุดเต็มสีแดงสดเดินมาหาสมบัติกลางทุ่ง แดงชนิดไม่กลัวควายขวิดในตอนท้ายเรื่อง "ไอ้ทุย" (2514) เป็นฉากจำที่ใครได้ดูก็ต้องชอบทั้งชุดและฉากนี้

อีกสิ่งหนึ่งที่รักและชอบเสมอในหนังอาดอกดินคือการที่อาเอาใจใส่กับเหล่า "ดาวยั่ว" ในหนัง ให้ออกมามีบทบาทน่ารัก น่าชัง ไม่ถึงกับยั่วพระเอกไปเรื่อยโดยไร้เหตุผล ฉากดีไซน์ยั่วยัวต่างๆ ก็ติดท่าทีเล่นทีจริง ดูเอาสนุกได้ไม่ออกไปทางอนาจาร ฉากที่เปิดให้นักศึกษาดูเสมอคือฉาก มาลาริน บุญนาค ยั่วสมบัติในกระท่อมกลางเกาะร้างในเรื่อง "ไอ้ทุย" เช่นกัน

นอกจากหนังของอาดอกดินเอง แกยังรับเชิญไปเล่นหนังของผู้กำกับท่านอื่นๆ เช่นกัน โดยเฉพาะเรื่อง "ละครเร่" (2512, กำกับโดย: พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล) อาดอกดินไปรับบทหัวหน้าคณะละครเร่ของพระเอก (มานพ อัศวเทพ) อาเคยให้สัมภาษณ์ว่าเล่นเรื่องนี้แล้วนึกถึงสมัยเป็นจำอวดเล่นหน้าม่านละครเวที และเล่นลิเกให้คณะศิวารมย์ของครูเนรมิต (อำนวย กลัสนิมิ)

และถ้าจำไม่ผิด แกน่าจะเป็นต้นแบบ "ตลกเจ็บตัว" คนแรกๆ ของหนังไทย ประเภทโดนอรสาเตะผ่าหมาก, กระโดดลงจากตึกตกใส่เค้ก, ปีนบันไดลิงแล้วร่วงลงมา ฯลฯ พบได้บ่อยในหนังที่แกทำกำกับ-เล่นเอง

ถ้าถามว่าหนังไทยในอดีตนั้นเป็นอย่างไร ผมจะแนะนำหนังของอาดอกดินให้คนถามลองดูโดยไม่ลังเลเลย (เคียงคู่กับหนังของอาหลอง ฉลอง ภักดีวิจิตร)

ใครยังไม่มีโอกาสดูหนังอาดอกดิน ก็ลองหามาดูครับ

ตำนานอีกหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์หนังไทย

: ภาพจาก "ไอ้ทุย" (2514) ซ้ายไปขวา Jimmy Lin Chong ดาราหนังเพลงค่ายชอว์ บราเดอร์/ สมบัติ เมทะนี / ดอกดิน กัญญามาลย์

(ID:24308) ดอกดินรำลึก

ความเห็น

กลับขึ้นข้างบน / กลับหน้าแรก