Mobile Version / สำหรับโทรศัพท์มือถือ ยินดีต้อนรับท่านผู้มาเยือน www.peoplecine.com ท่านยังไม่ได้ log in นะครับ เข้าใช้งานระบบ / สมัครสมาชิก/ ลืมรหัสผ่าน
รูป
หนังไทยในอดีต ทุกยุค ทุกสมัยเจ้าของ อ่าน ตอบ ผู้ตอบหลังสุด
-คิดถึง "หนังไทย"1998146.. 13/12/2551 0:35
-โหมโรง69155.. 13/10/2551 2:57
-เฉิ่ม89886.. 12/10/2551 5:56
-15 ค่ำ เดือน 1181986.. 12/10/2551 5:52
-วัยระเริง110686.. 6/10/2551 2:11
-หามาให้ชมกัน...โปสเตอร์บ้านผีปอบตั้งแต่ภาคแรกจนถึงภาึคล่าสุด1010416.. 27/9/2551 1:53
-บ้านผีปอบ2008 ปอบหยิบของแท้มาแย้ว119039.. 27/9/2551 1:52
-ชุมแพ83315.. 25/9/2551 3:45
-อรหันต์ซัมเมอร์82307.. 21/9/2551 4:33
-บุญชู1467230.. 20/9/2551 16:26
-ร่วมไว้อาลัย"ยอดรั สลักใจ"พระเอกลูกทุ่งที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ1370913.. 20/9/2551 9:49
-พระเอกตลอดกาล "สมบัติ เมทะนี"1659211.. 20/9/2551 9:43
-ดรีมทีม74134.. 14/9/2551 1:23
-"ด้วยเกล้า"93408.. 8/9/2551 23:03
-ก่องข้าวน้อยฆ่าแม่89747.. 5/9/2551 1:13
-ลูกอีสาน1373110.. 4/9/2551 19:56
เลือกหน้า
[<<] [32] [33] [34]
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 535

(ID:1359) "ด้วยเกล้า"


ในยุคที่ทุกวันนี้คนไทยเรา กำลังเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจ สังคม การเมือง รุมเร้า หน้งเรื่องนีทางจะเป็นทางออก สำหรับผู้ที่เผชิญกับปัญหาเศรษฐอยู่ในขณะนี้ ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของพ่อหลวงครับ

ความเห็น

[1]


(ID:13593)
ด้วยเกล้า ภาพยนตร์ไทยในปี 2530 ซึ่งนำกลับมาฉายใหม่อีกครั้งในปีนี้ และแม้ว่าเวลาจะล่วงผ่านมา 19 ปีแล้ว แต่ว่าเนื้อหาของภาพยนตร์นั้นกลับเป็นสิ่งที่ยังคงคุณค่าอยู่เหนือกาลเวลา เนื่องมาจากเรื่องราวที่ต้องการสื่อถึงน้ำพระทัยของในหลวงที่มีต่อปวงชนชาวไทยในทุกฐานะอาชีพนั่นเอง

เหล่านักแสดงชั้นนำอย่าง สันติสุข พรหมศิริ จินตหรา สุขพัฒน์ และ จรัล มโนเพ็ชร กับการรับบทนำในเรื่องนี้ แน่นอนว่าพวกเขาสามารถสื่อสารอารมณ์ออกมาสู่ผู้ชมได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะศิลปินผู้ล่วงลับ จรัล ในบทของผู้เฒ่าชาวนาในภาคเหนือ ที่มุ่งมั่นจงรักภักดี และศรัทธาต่อในหลวงอย่างล้นเหลือ ซึ่งคนดูก็จะสังเกตเห็นได้อย่างดีกับแววตามุ่งมั่นที่เขาแสดงออก และโดยเฉพาะในฉากเมื่อหยาดฝนเม็ดแรก ได้ตกกระทบลงบนใบหน้าของเขานั้น ความดีใจที่ส่องประกายในสีหน้าที่เขาได้แสดงออกมา พลอยทำให้ผู้ชมรู้สึกชุ่มชื่นหัวใจตามไปกับเขาด้วย

ผู้กำกับ บัณฑิต ฤทธิ์ถกล สามารถเล่าเรื่องได้น่าสนใจชวนติดตาม ไม่ว่าจะเป็นการใส่บทของตัวร้ายลงไปในเรื่อง นั่นคือ แม่เลี้ยงบัวเรียน (นฤมล นิลวรรณ) ซึ่งเปรียบเหมือนนายหน้าที่คอยขูดเลือดขูดเนื้อชาวบ้านเกษตรกรผู้ยากจน ผู้ชมจึงต้องคอยลุ้นให้เรื่องราวร้ายๆ ค่อยๆ คลี่คลาย รวมไปถึงเรื่องราวความรักของพระเอกและนางเอก ซึ่งตอนต้นเรื่องยังไม่ถูกกันเท่าไรนักว่าสุดท้ายแล้วทั้งคู่จะลงเอยกันได้อย่างไร

เพราะความรักของประชาชนชาวไทยที่มีต่อในหลวง ไม่ว่ายุคสมัยใดก็ยังเป็นความจริงที่มั่นคงไม่เสื่อมคลาย จึงทำให้ผู้ชมสามารถเข้าถึงเนื้อหาที่ต้องการสื่อในเรื่อง ด้วยเกล้า ได้ง่าย และเกิดความรู้สึกประทับใจได้ไม่ยากเช่นกัน อีกทั้งยังเป็นภาพยนตร์ซึ่งเหมาะสมที่จะไปดูกันได้ทั้งครอบครัวอีกด้วย

โดย เป็นประกาย (SZ Team)
ด้วยเกล้า ภาพยนตร์ไทยในปี 2530 ซึ่งนำกลับมาฉายใหม่อีกครั้งในปีนี้ และแม้ว่าเวลาจะล่วงผ่านมา 19 ปีแล้ว แต่ว่าเนื้อหาของภาพยนตร์นั้นกลับเป็นสิ่งที่ยังคงคุณค่าอยู่เหนือกาลเวลา เนื่องมาจากเรื่องราวที่ต้องการสื่อถึงน้ำพระทัยของในหลวงที่มีต่อปวงชนชาวไทยในทุกฐานะอาชีพนั่นเอง

เหล่านักแสดงชั้นนำอย่าง สันติสุข พรหมศิริ จินตหรา สุขพัฒน์ และ จรัล มโนเพ็ชร กับการรับบทนำในเรื่องนี้ แน่นอนว่าพวกเขาสามารถสื่อสารอารมณ์ออกมาสู่ผู้ชมได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะศิลปินผู้ล่วงลับ จรัล ในบทของผู้เฒ่าชาวนาในภาคเหนือ ที่มุ่งมั่นจงรักภักดี และศรัทธาต่อในหลวงอย่างล้นเหลือ ซึ่งคนดูก็จะสังเกตเห็นได้อย่างดีกับแววตามุ่งมั่นที่เขาแสดงออก และโดยเฉพาะในฉากเมื่อหยาดฝนเม็ดแรก ได้ตกกระทบลงบนใบหน้าของเขานั้น ความดีใจที่ส่องประกายในสีหน้าที่เขาได้แสดงออกมา พลอยทำให้ผู้ชมรู้สึกชุ่มชื่นหัวใจตามไปกับเขาด้วย

ผู้กำกับ บัณฑิต ฤทธิ์ถกล สามารถเล่าเรื่องได้น่าสนใจชวนติดตาม ไม่ว่าจะเป็นการใส่บทของตัวร้ายลงไปในเรื่อง นั่นคือ แม่เลี้ยงบัวเรียน (นฤมล นิลวรรณ) ซึ่งเปรียบเหมือนนายหน้าที่คอยขูดเลือดขูดเนื้อชาวบ้านเกษตรกรผู้ยากจน ผู้ชมจึงต้องคอยลุ้นให้เรื่องราวร้ายๆ ค่อยๆ คลี่คลาย รวมไปถึงเรื่องราวความรักของพระเอกและนางเอก ซึ่งตอนต้นเรื่องยังไม่ถูกกันเท่าไรนักว่าสุดท้ายแล้วทั้งคู่จะลงเอยกันได้อย่างไร

เพราะความรักของประชาชนชาวไทยที่มีต่อในหลวง ไม่ว่ายุคสมัยใดก็ยังเป็นความจริงที่มั่นคงไม่เสื่อมคลาย จึงทำให้ผู้ชมสามารถเข้าถึงเนื้อหาที่ต้องการสื่อในเรื่อง ด้วยเกล้า ได้ง่าย และเกิดความรู้สึกประทับใจได้ไม่ยากเช่นกัน อีกทั้งยังเป็นภาพยนตร์ซึ่งเหมาะสมที่จะไปดูกันได้ทั้งครอบครัวอีกด้วย

)



(ID:13594)
ด้วยเกล้า" ภาพยนตร์ไทยซึ่งออกฉายครั้งแรกเมื่อปี 2530 ผลงานการกำกับของ "บัณฑิต ฤทธิ์ถกล" นำแสดงโดยนักแสดงชั้นนำของวงการอย่าง "หนุ่ม - สันติสุข พรหมศิริ" "แหม่ม - จินตหรา สุขพัฒน์" "จรัล มโนเพ็ชร" "กฤษณ์ ศุกระมงคล" ร่วมด้วย "ไกรลาส เกรียงไกร" และ "นฤมล นิลวรรณ" อันมีเนื้อหาสะท้อนชีวิตชาวนาไทยในภาคเหนือ และความศรัทธาของปวงชนชาวไทยที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว



(ID:13595)

ด้วยเกล้า

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ด้วยเกล้า
The Seed
ใบปิดภาพยนตร์ ฉบับฉายใหม่ พ.ศ. 2549
ใบปิดภาพยนตร์ ฉบับฉายใหม่ พ.ศ. 2549
ผู้กำกับ บัณฑิต ฤทธิ์ถกล
บทภาพยนตร์ บัณฑิต ฤทธิ์ถกล
นักแสดงนำ จรัล มโนเพ็ชร
จินตหรา สุขพัฒน์
สันติสุข พรหมศิริ
กฤษณ์ ศุกระมงคล
ไกรลาส เกรียงไกร
นฤมล นิลวรรณ
โรม อิศรา
เพลงประกอบ ปราจีน ทรงเผ่า
กำกับภาพ พิพัฒน์ พยัคฆะ
ตัดต่อ พูนศักดิ์ อุทัยพันธ์
จัดจำหน่าย ไฟว์สตาร์
วันที่เข้าฉาย พ.ศ. 2530
9 กันยายน พ.ศ. 2549
ความยาว 110 นาที
ประเทศ ไทย
ภาษา ไทย
ข้อมูลบนเว็บ สยามโซน

ด้วยเกล้า เป็นภาพยนตร์ไทยที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2530 กำกับและเขียนบทโดย บัณฑิต ฤทธิ์ถกล เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 40 ปี ในปี พ.ศ. 2529 และพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ ๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๓๐ นำแสดงโดย จรัล มโนเพ็ชร , จินตหรา สุขพัฒน์ , สันติสุข พรหมศิริ ได้รับรางวัลภาพยนตร์เกียรติยศแนวสร้างสรรค์ยอดเยี่ยม ประจำปี พ.ศ. 2530 และรางวัลเพลงนำภาพยนตร์ยอดเยี่ยม พ.ศ. 2530

ในปี พ.ศ. 2549 สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย ร่วมกับ บริษัทไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น จำกัด ได้นำภาพยนตร์เรื่อง "ด้วยเกล้า" กลับมาฉายอีกครั้งในโรงภาพยนตร์ โดยได้ปรับปรุงคุณภาพเสียงเป็นระบบดอลบี ดิจิตอล 5.1 และบันทึกเสียงใหม่บางส่วน การจัดฉายภาพยนตร์ครั้งนี้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในงานฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี พุทธศักราช ๒๕๔๙ ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2549 โดยรายได้ในสัปดาห์แรกทั้งหมด นำสบทบทุนมูลนิธิชัยพัฒนา

เรื่องย่อ

เสาคำ (จรัล มโนเพ็ชร) ชาวนาจากภาคเหนือเก็บเมล็ดข้าวพระราชทานได้ไป 1 กำเล็กๆ จากพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญในวันพืชมงคล ที่ท้องสนามหลวง ในปีแรกที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 พระราชทานข้าวเปลือกจากแปลงทดลองในวังสวนจิตรลดา (ในเหตุการณ์จริง ปีแรกที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานเมล็ดพันธุ์ข้าว อยู่ในช่วงประมาณ พ.ศ. 2505-2507)

ด้วยความรักเทิดทูนและศรัทธาใน "ข้าวของพ่อ" เขาหว่านข้าวเหล่านั้นลงในผืนดินที่แห้งแล้ง ท่ามกลางความดูหมิ่นจากคนในครอบครัว ธรรมชาติที่โหดร้าย และความไร้น้ำใจของนายทุน

ด้วย ฝนหลวง ซึ่งเปรียบเสมือน "น้ำพระทัยของในหลวง" เสาคำกลับมายืนหยัดได้ด้วยผลผลิตที่งดงาม ดวงตาที่เปี่ยมประกายความสุข และรวงข้าวสุกอร่ามเต็มอ้อมแขน

นักแสดง

  • จรัล มโนเพ็ชร รับบท เสาคำ
  •  ? รับบท สะอาด ลูกชายคนโตของเสาคำ
  • จินตหรา สุขพัฒน์ รับบท เสาแก้ว ลูกสาวคนรองของเสาคำ
  • กฤษณ์ ศุกระมงคล รับบท อ้าง ลูกชายคนรองของเสาคำ ได้ทุนในหลวงไปเรียนการเกษตรที่เมืองนอก และกลับมาทำงานโครงการหลวง
  • โรม อิศรา รับบท สำอาง ลูกชายคนสุดท้องของเสาคำ หนีออกจากบ้านไปคบค้ากับชาวดอย คนขายฝิ่น ลูกน้องขุนส่า
  • ไกรลาส เกรียงไกร รับบท คำปั๋น เพื่อนบ้านของเสาคำ
  • ศศิวิมล ศรีสง่า รับบท ติ๊บ เมียคำปั๋น
  • สันติสุข พรหมศิริ รับบท คำนึง น้องชายของคำปั๋น เป็นทหารพราน และชอบพอกับเสาแก้ว
  • นฤมล นิลวรรณ รับบท แม่เลี้ยงบัวเรียน นายทุนเงินกู้ เจ้าของบ่อน้ำประจำหมู่บ้าน
  • ต่อลาภ กำพุศิริ รับบท ประสิทธิ์ ลูกชายคนเดียวของแม่เลี้ยง และชอบพอกับเสาแก้ว
  • จิราภัทร์ สารภีเพชร รับบท นาจา สาวชาวเขา แฟนสาวของสำอาง
  • ชาลี อินทรวิจิตร
  • อนุชาต สุวรรณเนตร
  • วิศิษฏ์ เผ่าสุวรรณ
  • เรืองฤทธิ์ บัวลอย 

 

  •  ดนตรีประกอบ

ภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นภาพยนตร์ไทยเพียงเรื่องเดียวที่ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเพลงพระราชนิพนธ์ จำนวน 9 เพลงมาใช้ในเรื่องคือ

เพลงพระราชนิพนธ์ในเรื่อง เรียบเสียงประสานโดย พระเจนดุริยางค์, หม่อมหลวงอัศนี ปราโมช และปราจีน ทรงเผ่า ดนตรีประกอบ แต่งโดย ดำรงค์ ธรรมพิทักษ์

 รางวัล

[แก้] อ้างอิง




(ID:13596)
 
 

        สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย ร่วมกับ บริษัทไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น จำกัด ร่วมเป็นเจ้าภาพในโครงการ "รวมใจ "ด้วยเกล้า"หนังไทยเพื่อในหลวง " ด้วยการนำภาพยนตร์เกียรติยศแนวสร้างสรรค์ยอดเยี่ยม พ.ศ.2530 เรื่อง "ด้วยเกล้า" ผลงานการกำกับของ "บัณฑิต ฤทธิ์ถกล" นำแสดงโดย จรัล มโนเพ็ชร,จินตหรา สุขพัฒน์,สันติสุข พรหมศิริ และ กฤษณ์ ศุกระมงคล  กลับมาฉายอีกครั้งในโรงภาพยนตร์

         "ด้วยเกล้า" เป็นภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่งที่แสดงออกถึงความจงรักภักดี และความเคารพเทิดทูนสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มีเนื้อหาสาระเป็นคติสอนใจคน ซึ่งถ่ายทอดจากความรู้สึกของชาวนาและความยากลำบากของกระดูกสันหลังของชาติ แต่ยังดีที่แม้ว่าทุกคนจะแร้นแค้นยากจนสักเพียงใด ความร่มเย็นและน้ำพระทัยของ "ในหลวง" ก็แผ่กระจายเอาความชุ่มชื่นร่มเย็นไปถึง...เป็นภาพยนตร์ที่ทรงคุณค่าและควรชม

         ด้วยจิตสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณใน "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ" สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย และ บริษัท ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น จำกัด ได้ผนึกกำลัง ระดมสมอง และใจ ในการนำภาพยนตร์เรื่อง "ด้วยเกล้า" กลับมาฉายอีกครั้ง โดยเรามิได้ดัดแปลงของเดิมแต่อย่างใด เพียงแต่ปรับปรุงและแก้ไขในเรื่องคุณภาพเสียงจากของเดิมเปลี่ยนเป็นระบบ ดอลบี้ 5.1 ซึ่งได้รับความเอื้อเฟื้อจากบริษัท "ดอลบี้" มาช่วยดูแลในด้านระบบเสียงให้ รวมไปถึง "กันตนา" เอื้อเฟื้อแล็ปเพื่อใช้ในขั้นตอนผลิตฟิล์มทั้งหมด ,ฟูจิ ฟิล์ม มอบฟิล์มในการทำต้นฉบับใหม่ ,"วนิลาสกาย"ร่วมทำเสียงประกอบภาพยนตร์ใหม่, "ลัลลาบาย" ร่วมทำดนตรีประกอบภาพยนตร์ , "ห้องเสียงรามอินทรา" ร่วมบันทึกเสียงให้ใหม่ทั้งหมด และ "เดอะโพสต์ บางกอก" ร่วมสร้างสรรค์ผลิตภาพยนตร์ตัวอย่างครั้งใหม่  โดยมี  ราเชนทร์ ลิ้มตระกูล,สุเทพ ตันนิรันดร์ ร่วมตัดต่อและจัดทำโปสเตอร์ และ แบนเนอร์สื่อโปรโมททั้งหมด  และคุณเกียรติกมล เอี่ยมพึ่งพร รับหน้าที่โปรดิวเซอร์งานในครั้งนี้

        นี่เป็นเจตนารมณ์อันยิ่งยวดของ "คนทำหนังไทย" ที่ร่วมกันทำเพื่อ "ในหลวง" เนื่องในปีมหามงคลฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เพื่อย้ำเตือนความโชคดีเป็นที่สุดที่ได้อยู่ร่วมแผ่นดินไทย เป็นประชาชนของพระองค์

         ภาพยนตร์ "ด้วยเกล้า" เปรียบเสมือนตัวแทน และ สื่อความหมายของ "ความรู้สึก" ของ "คนหนังไทย" ที่มีต่อพระเจ้าแผ่นดินของเรา  เนื้อหาของหนังบอกเล่าเรื่องราว "ในปีแรกที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 พระราชทานข้าวเปลือกจากแปลงทดลองในวังสวนจิตรลดา สู่พิธีจดพระนังคัลแรกนาขวัญ "เสาคำ"(จรัล มโนเพ็ชร) ชาวนาจากภาคเหนือได้มาเก็บกอบไป 1 กำเล็กๆ ด้วยความรักเทิดทูนและศรัทธาใน "ข้าวของพ่อ" เขาหว่านข้าวเหล่านั้นลงในผืนดินที่แห้งแล้ง ต่อสู้กับความไร้น้ำใจของนายทุน ความดูหมิ่นจากคนในครอบครัว และธรรมชาติที่โหดร้าย
"จนวันหนึ่งที่ "ฝนหลวง" ซึ่งไม่ใช่ "น้ำฝน" ธรรมดา แต่คือ "น้ำพระทัยของในหลวง" ที่ได้ชโลมแดนดินกันดาร "เสาคำ" ผู้เหมือนว่าจะพ่ายแพ้จึงกลับมาหยัดยืนได้พร้อมรวงข้าวสุกอร่ามเต็มอ้อมแขน....ดวงตาที่เปี่ยมประกายความสุข"

          "ด้วยเกล้า" จึงเป็นภาพยนตร์ที่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะถ่ายทอดสู่สายตาประชาชนอีกครั้ง โดยได้รับความร่วมมือจากโรงภาพยนตร์ เอสเอฟ ,เมเจอร์ และ อีจีวี ในการนำหนังเข้าฉาย 10 แห่ง

        รายได้ทั้งหมดในการฉายภาพยนตร์สัปดาห์แรก วันที่ 9 กันยายน-15 กันยายน พ.ศ.2549  ทางสมาคมฯ จะนำเงินร่วมสมทบทุน "มูลนิธิชัยพัฒนา" ทั้งหมด

 

รวมใจ "ด้วยเกล้า"
หนังไทยเพื่อในหลวง
จากใจ "เจริญ เอี่ยมพึ่งพร" ผู้บริหาร บ.ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น จก.

ทำไมจึงยินดีให้ภาพยนตร์ "ด้วยเกล้า" จัดกิจกรรมครั้งนี้

          "ตั้งแต่ต้นปีที่ทราบข่าวจะมีการเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติครบ 60ปี ผมในฐานะพสกนิกรคนหนึ่งที่อาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินไทยแห่งนี้ อยากจะตอบแทนความจงรักภักดีแด่พระองค์ท่าน ตัวผมในฐานะผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ มีภาพยนตร์ "ด้วยเกล้า" ตัวฟิล์มที่มีคุณค่า จึงมีความคิดที่อยากจะนำมาปัดฝุ่นใหม่ พอดีกับทางสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย โดย ปรัชญา ปิ่นแก้ว ทราบเรื่อง แล้วมาพูดคุยกันพอดี และมีความคิดเห็นตรงที่กัน อยากจะทำอะไรเพื่อ "ในหลวง" และเพื่อให้ศักยภาพการทำงานที่เติบเต็มจึงตัดสินใจร่วมมือกับทางสมาคมฯนี้

          "หนังเรื่องนี้มีการเดินทางมายาวนานถึง 19 ปีเต็ม เป็นภาพยนตร์ที่ได้รับเกียรติจากในวัง ขอนำภาพยนตร์ไปฉายที่ "สนามหลวง" ทุกวันที่ 5 ธค.ของทุกปี เพราะเป็นภาพยนตร์เรื่องเดียวที่บอกเล่าถึงพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และความศรัทธาของประชาชนที่มีต่อพระองค์ท่าน

          "การนำ "ฟิล์ม"มาปัดฝุ่นทำใหม่ในครั้งนี้ แตกต่างจาก "ของเดิม"ที่มีอยู่แน่นอน ตั้งแต่การเรียงภาพใหม่ ทำสี เสียง ดนตรีประกอบภาพยนตร์ ที่ยังคงไว้ซึ่งบรรยากาศและการเล่าเรื่องของผู้กำกับ บัณฑิต ฤทธิ์ถกล ในเวอร์ชั่นนี้จะมีภาพที่สดใส เสียงที่ดียิ่งขึ้น อารมณ์การบอกเล่าไม่แพ้หนังไทยในยุคปัจจบัน

          "ผมเชื่อว่าภาพยนตร์ที่มีอายุยาวนานเกือบ 20ปีเรื่องนี้ คุณภาพไม่ด้อยกว่าหนังใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเทคนิคการทำเสียง และที่สำคัญคือ "ตัวบทภาพยนตร์" ที่เป็นความดีของเรื่อง  ที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี "ด้วยเกล้า"ยังคงเป็นภาพยนตร์ที่ไม่เคยตกหล่นในทุกยุคทุกสมัย หากจะพูดถึง "น้ำพระทัย"ของ "ในหลวง" ที่มีต่อพสกนิกรชาวไทย ผมจึงภูมิใจที่จะเห็น "ด้วยเกล้า" กลับมามีชีวิตโลดแล่นอีกครั้งในโรงภาพยนตร์" ผู้บริหารไฟว์สตาร์กล่าว

 

รวมใจ "ด้วยเกล้า"
หนังไทยเพื่อในหลวง
จากใจ ปรัชญา ปิ่นแก้ว นายกสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย

ทำไมต้องทำโครงการนี้ และทำไมต้อง "ด้วยเกล้า"

        สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย ก็เหมือนประชาชนชาวไทยทุกคนในปีนี้ที่ "อยากจะทำอะไรดี ๆ สักอย่าง" เพื่อในหลวง ในปีมหามงคลที่พระองค์ฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ก็เลยประชุมกันในบรรดาสมาชิก ซึ่งประกอบด้วยผู้กำกับภาพยนตร์จากทุกค่าย ก็ลงความเห็นว่า "อะไรดี ๆ" นี้ก็น่าจะเกี่ยวกับภาพยนตร์ ก็คิดเห็นกันไปหลากหลายในตอนแรก จะระดมทุนทำหนังใหม่ก็คงใช้เวลาและขั้นตอนหลายขั้นตอน จะทำหนังพระราชกรณียกิจก็เกรงว่าไม่ครอบคลุมเท่าที่ทางรัฐบาลจัดแสดงที่เมืองทองธานี.. คุยกันไปมา บางคนก็เริ่มพูดถึงหนัง "ด้วยเกล้า" ซึ่งเป็นงานมาสเตอร์พีซของ บัณฑิต ฤทธิถกล เป็นภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับพระอัจริยภาพและพระเมตตาธรรมของในหลวง ผ่าน ข้าวหลวง และ ฝนหลวง เป็นภาพยนตร์รางวัลเกียรติยศของปี 2530 ด้วย น่าจะเอามาฉายให้ประชาชนรุ่นนี้ได้ชมและร่วมซาบซึ้งกัน แล้วมอบรายได้ถวายในหลวง ผ่านมูลนิธิชัยพัฒนา ก็เลยนำไอเดียนี้ไปปรึกษากับทางไฟสตาร์ โปรดักชั่น ซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ภาพยนตร์นี้ ทางคุณเจริญ เอี่ยมพึ่งพร  (คุณเชน) ก็ยินดีมาก สั่งการให้คุณโจ๊ก ( เกียรติกมล เอี่ยมพึ่งพร)ช่วยดูแลด้านโปรดักชั่น และติดต่อกับโรงหนังเรื่องการจัดฉาย
สิ่งที่น่าตื่นเต้นมากของการทำโครงกานี้ก็คือ ไม่ว่าจะขอความช่วยเหลือจากใคร ฝ่ายใด ค่ายใด ก็ได้รับความร่วมมือ และการอาสาทำให้แบบไม่คิดค่าแรง ค่าใช้จ่าย เช่น กันตนาก็ให้ใช้แล็บฟรี ฟูจิก็ให้ฟิล์ม ห้องเสียงรามอินทราก็ทำเสียงให้ฟรี ฯลฯ บริษัท พรานทะเลก็สนับสนุนกำลังเงินค่าทำสื่อ ที่สำคัญมากคือผู้กำกับทุกค่ายก็ช่วยกันทำงานที่ตัวเองถนัด คือ ทันทีทันใด "ด้วยเกล้า" ก็ทำให้เกิดปฏิสัมพันธ์ "การรวมใจ" ของคนทำหนัง

          ก็เลยยิ่งเชื่อว่า กว่าจะถึงวันที่ภาพยนตร์ฉาย การรวมใจคงขยายผลจาก "คนทำหนัง" ถึง "คนบันเทิงทุกสาขา" และ "ประชาชนทั่วไป"

ทำไมต้องมูลนิธิชัยพัฒนา
เพราะมูลนิธิชัยพัฒนา เป็นมูลนิธิที่ทำงานด้าน "ฝนหลวง"




(ID:13597)
คุณค่า
  • รางวัล ภาพยนตร์เกียรติยศแนวสร้างสรรค์ยอดเยี่ยม พ.ศ.2530
  • รางวัล เพลงนำภาพยนตร์ยอดเยี่ยม พ.ศ. 2530
  • นี่เป็นภาพยนตร์ไทยเพียงเรื่องเดียวที่โปรดเกล้าฯ พระราชทาน 9 เพลงพระราชนิพนธ์คือ สายฝน, ลมหนาว, ชะตาชีวิต, อาทิตย์อับแสง , ยามเย็น, แสงเดือน, แสงเทียน, ใกล้รุ่ง และ ยิ้มสู้
  • สิ่งสำคัญที่สุด นี่คือ ภาพยนตร์ไทยเฉลิมพระเกียรติที่หาชมได้ยากยิ่งและเหมาะสมที่สุดที่พวกเราชาวไทยจะได้ชมในปีมหามงคลฉลองสิริราชสมบัติ 60ปีนี้ เพื่อย้ำเตือนความโชคดีเป็นที่สุดที่ได้อยู่ร่วมแผ่นดินไทย เป็นประชาชนของพระองค์ จึงเป็นภาพยนตร์ที่เมื่อชมจบแล้ว สมควรที่เราต้องยืนขึ้นร้องเพลง "สรรเสริญพระบารมี" ร่วมกันอีกคำรบหนึ่ง



(ID:13598)
ดูหนังเรื่องนี้แล้ว คิดถึงศิลปินผู้ยิ่งใหญ่แห่งล้านนา "จรัล มโนเพชร" ครับ



(ID:13743)
สุดยอดเลยครับเป็นหนังที่ผมดูแล้ว IN ไปด้วยครับ ผมอยากได้ DVD ใครพอรู้ว่าที่ไหนมีขายครับ



(ID:13767)
ของผมชื้อไว้นานแล้วครับ ยังเป็นวีซีดีอยู่เลย เหมือนกัน แล้วจะลองไปแวะดูตามร้านครับ ได้ผลยังไงจะส่งข่าวครับ



เลือกหน้า
[1]
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 8

กลับขึ้นข้างบน / กลับหน้าแรก

ค้นกระดานข่าว:


ถูกเปิด: ถูกคลิ๊กแล้ว: 116959827 ตอนนี้มีผู้เข้าชม : 1 ล่าสุด :Bryantoxymn , นนท์ , Jerekioxgew , ProlBlask , RobertMIGH , Sallycgriet , BrianerpGep , AnthonykDraib , Kristenmswony , Edwinjophorie ,