Mobile Version / สำหรับโทรศัพท์มือถือ ยินดีต้อนรับท่านผู้มาเยือน www.peoplecine.com ท่านยังไม่ได้ log in นะครับ เข้าใช้งานระบบ / สมัครสมาชิก/ ลืมรหัสผ่าน
รูป
หนังไทยในอดีต ทุกยุค ทุกสมัยเจ้าของ อ่าน ตอบ ผู้ตอบหลังสุด
-คิดถึง "หนังไทย"1998146.. 13/12/2551 0:35
-โหมโรง69155.. 13/10/2551 2:57
-เฉิ่ม89876.. 12/10/2551 5:56
-15 ค่ำ เดือน 1181966.. 12/10/2551 5:52
-วัยระเริง110686.. 6/10/2551 2:11
-หามาให้ชมกัน...โปสเตอร์บ้านผีปอบตั้งแต่ภาคแรกจนถึงภาึคล่าสุด1010416.. 27/9/2551 1:53
-บ้านผีปอบ2008 ปอบหยิบของแท้มาแย้ว119039.. 27/9/2551 1:52
-ชุมแพ83315.. 25/9/2551 3:45
-อรหันต์ซัมเมอร์82307.. 21/9/2551 4:33
-บุญชู1467230.. 20/9/2551 16:26
-ร่วมไว้อาลัย"ยอดรั สลักใจ"พระเอกลูกทุ่งที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ1370813.. 20/9/2551 9:49
-พระเอกตลอดกาล "สมบัติ เมทะนี"1659211.. 20/9/2551 9:43
-ดรีมทีม74134.. 14/9/2551 1:23
-"ด้วยเกล้า"93408.. 8/9/2551 23:03
-ก่องข้าวน้อยฆ่าแม่89747.. 5/9/2551 1:13
-ลูกอีสาน1373110.. 4/9/2551 19:56
เลือกหน้า
[<<] [32] [33] [34]
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 535

(ID:1550) เฉิ่ม


หนังเรื่องนี้ ดูหลายรอบครับ เป็นหนังที่ดูได้แบบสบายๆ ครับดูไปซึ้งไป



ความเห็น

[1]


(ID:15767)
ชื่อภาษาไทย เฉิ่ม

จัดจำหน่ายโดย สหมงคล ฟิล์ม

กำหนดฉาย 12 พฤษภาคม 2548

เรื่องย่อ

" ถ้าหากว่าเราค้นพบสิ่งที่เรารักแล้ว เป็นไปได้หรือไม่ ที่เราจะหยุดเวลาและหัวใจไว้ที่นั่น.."

บัติ โชเฟอร์ขับแท็กซี่กะดึก ผู้มีรสนิยมเฉพาะตัว ชอบฟังแต่วิทยุช่อง AM ที่มีละครวิทยุและเพลงเก่า ใส่น้ำมันใส่ผมเรียบแปร้ ชอบอมโบตันและกินต้มเลือดหมูเจ้าประจำทุกคืน บัติเหมือนมนุษย์ที่หลุด พ.ศ. ยืนยิ้มแปร้ท้าทายโลกปัจจุบันที่หมุนไปอย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจ เพราะโลก AM ทำให้เขาหลุดไปอยู่ในโลกแห่งความหวังที่สวยงาม โลกที่ทำดีได้ดี โลกที่ไม่ต้องสนใจยุคสมัย แม้ใครจะมองว่าเขาเฉิ่ม

จนกระทั่งวันที่บัติได้พบและตกหลุมรัก นวล หญิงสาวที่มีอาชีพหมอนวด ชายที่หมกมุ่นอยู่แต่ในโลกแห่งความฝันกับหญิงสาวที่เอาแต่ก้มหน้ายอมรับชีวิตจริง จึงเป็นเสมือนสิ่งที่เติมเต็มให้แก่กัน ความผูกผันของทั้ง 2 ที่ก่อตัวขึ้นมาพร้อมกับบททดสอบของชีวิต ความปรารถนาดีและโลกแห่งความฝันของบัติก็ถูกโลกแห่งความจริงสั่นคลอนจนทั้งคู่ต้องพรากจากกัน สุดท้ายปลายทางของทั้งสองจะลงเอยอย่างไร.?

นักแสดง
หม่ำ จ๊กมก
วรนุช วงษ์สวรรค์
ศิวะ แตรสังข์
คืนสิทธิ์ สุวรรณวัฒกี


กำกับการแสดง
คงเดช จารุรันต์รัศมี




(ID:15768)
บัติ โชเฟอร์ขับแท็กซี่กะดึก ผู้มีรสนิยมเฉพาะตัว ชอบฟังแต่วิทยุช่องAM ที่มีละครวิทยุและเพลงเก่า ใส่น้ำมันใส่ผมเรียบแปร้ ชอบอมโบตันและกินต้มเลือดหมูเจ้าประจำทุกคืน บัติเหมือนมนุษย์ที่หลุดพ.ศ.ยืนยิ้มแปร้ท้าทายโลกปัจจุบันที่หมุนไปอย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจ เพราะโลก AM ทำให้เขาหลุดไปอยู่ในโลกแห่งความหวังที่สวยงาม โลกที่ทำดีได้ดี โลกที่ไม่ต้องสนใจยุคสมัย แม้ใครจะมองว่าเขาเฉิ่ม

จนกระทั่งวันที่บัติได้พบและตกหลุมรัก นวล หญิงสาวที่มีอาชีพหมอนวด ชายที่หมกมุ่นอยู่แต่ในโลกแห่งความฝันกับหญิงสาวที่เอาแต่ก้มหน้ายอมรับชีวิตจริง จึงเป็นเสมือนสิ่งที่เติมเต็มให้แก่กัน

ความผูกผันของทั้ง2ที่ก่อตัวขึ้น มาพร้อมกับบททดสอบของชีวิต ความปรารถนาดีและโลกแห่งความฝันของบัติก็ถูกโลกแห่งความจริงสั่นคลอนจนทั้งคู่ต้องพรากจากกัน สุดท้ายปลายทางของทั้งสองจะลงเอยอย่างไร.???

จากผลงานการกำกับของคงเดช จาตุรันต์รัศมี ผู้เขียนบทสยิวและ The Letter จดหมายรัก กับการเผชิญหน้าของสองซุปเปอร์สตาร์ชื่อดังแห่งเมืองไทยอย่างเจ้าพ่อตลกตลอดกาลหม่ำ จ๊กมกกับการประกาศกล้ารับบทรักโรแมนติคอิ่มเอมใจปะทะสุดยอดนางเอกดังจากวิกหมอชิต นุ่น วรนุช วงษ์สวรรค์กับบทหมอนวดสาวครั้งแรกในชีวิตการแสดงกับเรื่องราวของหนุ่มแท็กซี่ผู้ปิดตัวอยู่กับโลกแห่งความฝันและความสวยงามของวิทยุ AM และสาวโรงนวดที่อยู่ในโลกของแสงสีและความเป็นจริงอย่างเดียวดายเส้นขนานของ 2 โลกที่ต่างกันสุดทาง กลับมาบรรจบกันลงตัวแบบไม่น่าเชื่อ

กลางปีพ.ศ. 2546 ระหว่างที่ คงเดช จาตุรันต์รัศมี ต้องขับรถกลับจากต่างจังหวัดเข้ากรุงเทพฯ ทุกวัน
มีอยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง เขาบังเอิญเปิดวิทยุฟังเพลงจากสถานีเอเอ็มและสะดุดเข้ากับเพลงไทยเก่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพลง ปองใจรัก ของสุนทราภรณ์ หลังจากนั้น คงเดช เกิดอาการติดอยู่ในห้วงของการหวนระลึกอดีต โลกของวิทยุเอเอ็มที่เคยฟังในอดีตเมื่อหลายปีก่อน ถูกรื้อฟื้นกลับมาในความทรงจำและความรู้สึกอีกครั้ง ที่สำคัญคือ มันไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยจากเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนที่เขาเคยฟังจนถึงทุกวันนี้ คงเดชรู้สึกว่าโลกของเอเอ็มถูกฟรีซไว้ ณ ห้วงเวลานั้น มันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างยังคงเดิม ทั้งสปอตวิทยุ ละครวิทยุ เสียงประกอบที่ใช้ในละคร รวมไปถึงเนื้อหาและเรื่องราว ที่ล้วนทำให้โลกในคืนวันอันแสนงามจากอดีตผุดขึ้นมาในความทรงจำอีกครั้ง โลกที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นโลกในอุดมคติ จากนั้นเรื่องราวเกี่ยวกับโลกของเอเอ็มได้นำแรงบันดาลใจมาสู่เขา ต่อยอดออกมาเป็นเรื่องราวของคนขับแท็กซี่ที่หลงใหลในวิทยุเอเอ็มและหลงรักหมอนวดสาวที่เขาเพียรรับส่งทุกค่ำคืน ผู้กำกับฯ คงเดช ตั้งคำถามกับภาพยนตร์เรื่องนี้ไว้ว่า

"ถ้าหากว่าเราค้นพบสิ่งที่เรารักแล้ว เป็นไปได้หรือไม่ ที่เราจะหยุดเวลาและหัวใจไว้ที่นั่น"

ด้วยความที่เป็นเจ้าโปรเจกต์และเขียนบทหนังออกมาได้อย่างรวดเร็ว เวลานั้นคงเดชมีหนังที่เขาอยากทำอยู่สองสามเรื่อง แต่เมื่อเขาส่งโปรเจ็กต์ผ่านไปยังโปรดิวเซอร์ ทางทีมโปรดิวเซอร์อันได้แก่ ปรัชญา ปิ่นแก้ว, สุกัญญา วงศ์สถาปัตย์, ศิวาภรณ์ พงษ์สุวรรณ เห็นพ้องต้องกันว่า เรื่องที่น่าจะทำมากที่สุดในเวลานี้คือ "เฉิ่ม" โดยดูจากความน่าสนใจของเรื่องราวและการคัดเลือกนักแสดงนำ ซึ่งคือ หม่ำ จ๊กมก และ วรนุช วงษ์สวรรค์ ซึ่งทั้งสองต่างเป็นซูเปอร์สตาร์ของไทย

อีกทั้งเนื้องานในหนังเรื่องนี้ เป็นแนวทางที่ทั้งคู่ไม่เคยทำมาก่อน หม่ำ ต้องพลิกบทบาทจากตลกหน้าตายมาสวมบทชีวิตคนขับแท็กซี่ที่มีโลกส่วนตัว แถมยังต้องมีฉากจูบอีกต่างหาก ส่วน วรนุช วงษ์สวรรค์ หรือ นุ่น นางเอกระดับแนวหน้าของวงการละครกับงานภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตแถมยังต้องรับบทหมอนวดสาว ระหว่างที่รอความคืบหน้าของโปรเจกต์ โดยที่คงเดชปรับปรุงบทภาพยนตร์ไปด้วยนั้น ทาง ศิวาภรณ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมโปรดิวเซอร์ได้รับการติดต่อจากผู้ประสานงานฝ่ายวัฒนธรรมของสถานทูตฝรั่งเศสว่า น่าจะส่งโปรเจ็กต์ที่มีอยู่เพื่อเข้าร่วมสัมมนา a seminar for young producer หรือ produire au sud ในเทศกาลภาพยนตร์เมืองนองต์ ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งจัดขึ้นในปลายปี 2003 ปรากฏว่าโปรเจ็กต์ภาพยนตร์เรื่อง "เฉิ่ม" หรือ "Midnight My Love" ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมสัมมนา ซึ่งเป็น 1 ใน 7 โปรเจ็กต์จาก 3 ทวีป คือ เอเชีย, แอฟริกา และ อเมริกาใต้

ในส่วนของทีมงานหลักของภาพยนตร์ คงเดช ยังคงได้ร่วมงานกับทีมงานเดิม อาทิเช่น สยมภู มุกดีพร้อม (สุดเสน่หา, แจ๋ว ฯลฯ) ซึ่งเคยร่วมงานกันมาตั้งแต่เรื่อง "สยิว" ได้ผู้กำกับศิลป์อย่าง ศิระ ตาลทอง ซึ่งเหมาะกับงานกำกับศิลป์แบบเหมือนจริง (สยิว, คน ผี ปีศาจ) รวมทั้งคนตัดต่ออย่าง ลี ชาตะเมธีกุล ซึ่งเป็นคนตัดต่อรุ่นใหม่ที่ฝากผลงานไว้กับภาพยนตร์ชั้นนำมากมาย อาทิ สัตว์ประหลาด, สุดเสน่หา, สยิว, คืนไร้เงา, ชัตเตอร์ กด ติด ตาย และที่น่าสนใจอีกส่วนหนึ่งคือ ทีมงานออกแบบเสียง ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้มีการ "เล่น" กับเสียงมาก ซึ่งทางผู้กำกับคงเดชประทับใจและสนุกกับทีมออกแบบเสียงอย่าง อุโฆษสตูดิโอ เป็นอย่างมาก

และหลังจากการสัมมนาเสร็จสิ้น ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เริ่มถ่ายทำทันทีในเดือนธันวาคม 2546 บทของ สมบัติ ดีพร้อม ถูกวางตัวเป็น หม่ำ จ๊กมกแต่แรก ส่วน นวล นั้นถูกปรับเปลี่ยนและควานหาตัวนักแสดงหลายคน กระทั่งชื่อของ "นุ่น" ถูกนำเข้ามายังที่ประชุม หลายคนรู้สึกว่าน่าสนใจ ไม่มีใครกังขากับการแสดงของเธอ กระทั่งได้พบตัวจริงและร่วมแสดงในหนัง นุ่น สามารถทำให้บทของนวล ซึ่งเป็นบทของผู้หญิงธรรมดาที่ไม่มีอะไรน่าสนใจ กลับดูน่าสนใจและเย้ายวนใจขึ้นมาได้อย่างประหลาด ทุกคนต่างทึ่งไปกับการแสดงของเธอ รวมทั้งบท สมบัติ ของหม่ำ ด้วยเช่นกัน ซึ่งเขาสามารถแสดงออกมาได้อย่างน่ารักและน่าสงสารอย่างคาดไม่ถึง

ปัญหาที่ตามมาก็คือ การจัดคิวแสดงให้ลงตัวระหว่างนางเอกและพระเอกคิวทองของหนัง เพราะทั้งคู่ต่างก็มีงานแสดงที่รัดตัว กระทั่งภาพยนตร์ได้ถ่ายทำเสร็จสิ้นลงและปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด ซึ่งขณะที่ภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ในระหว่างการตัดต่อ ก็ได้รับการทาบทามจากหลายเทศกาลภาพยนตร์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ


ที่มา >> MovieMax




(ID:15769)



-ญ.โอ้ความรักเอย สุดชื่นสุดเชย สุดจะเฉลยรำพัน
ช. รักเจ้าเฝ้าแต่ฝัน ผูกพันรักพี่กระสันต์คอยหา *1

ในรถแท๊กซี่ เลขทะเบียน ทน. 2514 เพลงเก่าอบอวลลอยล่อง
โดยมีแสงไฟเรื่อเรืองของเมืองใหญ่ เริงระบำตามจังหวะเก่าแก่
ถนนทอดยาวมืดดำผู้คนต่างใช้ชีวิตไปตามเส้นทางของตน ขึ้นและลงรถของสมบัติ ดีพร้อม
แต่ภายในรถกลับหยุดชีวิตของตนเอาไว้ในโลกของเพลง สุนทราภรณ์ รายการวิทยุเอเอ็ม เกาเหลาเลือดหมู และครีมใส่ผมสกายแล็บ
ในบางค่ำคืนที่ถนนร้างผู้คน สมบัติก็รู้สึกเหมือนอยู่ตัวคนเดียวบนโลกนี้
มีเพียงรายการเก่าแก่ที่ฉุดดึงเขาไว้ไม่ให้ลอยออกไปนอกโลก
จนกระทั่ง นวล ก้าวขึ้นรถแท็กซี่ของเขา

- ญ. พี่คอยน้องคอย ต่างคนต่างคอย แต่บุญเราน้อยนักหนา
ช. คอยเจ้าเจ้าไม่มาเจ้าหนีหน้าแก้วตาหนีพี่ไป *1

นวลพบสมบัติครั้งแรก ตอนกำลังมีเรื่องกับผู้ชายคนหนึ่งเธอเปิดประตูแล้วแต่ก็ไม่ได้ก้าวขึ้นรถของเขา
นวลเป็นหมอนวดในคลับเดอะพาเลซ เธอเพิ่งมาทำงานไม่นาน และบอกตัวเองว่าจะไม่ร้องให้อีกแล้ว
ท่ามกลางเพื่อนร่วมอาชีพ แขก และ ปลายสายที่โทรมาขอเงิน นวลรู้สึกเหน็ดเหนื่อย อ่อนล้า เจ็บปวดเกินกว่าจะกล่าวคำใดๆได้
เว้นแต่ค่ำคืนเงียบเชียบคืนหนึ่งในรถแทกซี่แปลกหน้าและบทเพลงอันล่วงพ้นไปเนิ่นนานแล้ว

- ญ. รักพี่สุดที่อาวรณ์รักจรจำไกล
ช. อย่าเลยอย่าไป พี่หวงดวงใจ ขอให้พี่ได้เคียงครอง
ญ. พี่ปองน้องปองห้องหอ น้องจะไปรอ คู่คลอหอห้อง
ช.ญ.พี่ปองน้องปอง ต่างคนต่างปอง แล้วพี่จะครองคู่เอย -*1


บนรถแทกซี่ เพลงของสมบัติ ปลอบประโลมจิตวิญญาณของนวล
และ ความมีอยู่ของนวล ทำให้โลกของสมบัติ เริ่มหมุนเชื่องช้าอีกครั้ง
.

เพลงรักอันล่วงพ้น

-ถ้าค้นพบสิ่งเรารักแล้ว เราจะสามารถหยุดอยู่กับมันโดยที่ไม่หมุนไปตามโลกได้หรือเปล่า * 2
นี่คือโจทย์หลักของหนังเรื่องนี้จากปากคำ ของ คงเดช จาตุรนต์รัศมี ผู้กำกับ


ในโลกของสมบัติ กลังจากผ่านพ้นเรื่องเลวร้าย เขาค้นพบโลกเล็กๆหนึ่งใบในรายการวิทยุของ วทพ. และรายการเพลงเก่าของ คุณอา ธรรมรงค์ ที่เขาเพียรเขียนจดหมายถึง สมบัติยินดีจะปล่อยให้โลกทั้งใบหมุนผ่านหน้าเขาไป โดยไม่ใยดีอันใด เขาไม่มีโทรศัพท์มือถือ ไม่มีเพื่อนสนิท ไม่มีคนรัก กระทั่งผู้โดยสารเขายังขอเชิญลงจากรถเพราะส่งเสียงรบกวนละครวิทยุของเขา
จนกระทั่งนวลหลงทางจากโลกข้างนอกพลัดหลงเข้ามาในโลกของเขา อาจเพราะโลกของสมบัติหมุนช้า นวลจึงสัมผัสถึงมันได้
หนังไม่ได้บอกว่านวลกับสมบัติ รักกัน หรือไม่ เราอาจเห็นทั้งคู่ไปเที่ยวด้วยกัน อยู่ร่วมกันในห้วงเวลาดีงาม เป็นเสมือนไหล่ให้พักพิงกันและกัน หากแต่เราไม่อาจระบุว่านวลรักสมบัติหรือไม่ เธออาจขอให้เขากอดเธอ หรือพาเธอหนีงาน แต่นั่นอาจเป็นเพียงความเดียวดายในค่ำคืนเปลี่ยวร้าง โลกของสมบัติอาจขยับเคลื่อนจนเขายอมลงทุนไปกับบริษัท ฟิวเจอร์ เพอร์เฟคท์ เพื่อหาทางช่วยนวล แต่นั่นอาจเพียงเพราะเขาสงสารหญิงสาวตัวเล็กที่มักหลับในรถของเขา และ เป็นคนเดียวที่รับรู้โลกของเขาก็เป็นได้


การถ่ายฉากความคิดของสมบัติออกมาเป็นละครวิทยุ ทำให้หนังดูน่าขันแต่มันก็ค่อยๆแสดงให้เห็นถึงวิธีคิดของสมบัติที่ต้องยึดโยงตัวเองเข้ากับโลกเก่าในนิยาย ซึ่งมักเล่าเรื่องของความดีงาม (อย่างเชยๆ) ซึ่งให้ทั้งความน่ารักน่าชังและมิติของตัวละคร (ไม่นับรวมถึงว่านี่เป็นหนังอีกเรื่องที่คารวะ หนังไทยสมัยเก่าที่แสนจะ-เฉิ่ม)


ความคลุมเครือในความสัมพันธ์ของสมบัติกับนวล ทำให้หนังอ่อนละมุนไปด้วยโมงยามแห่งความดีงาม (หนังถ่ายภาพความงดงามอันถูกละเลยอย่างเช่น เงาแดดกระทบน้ำที่สะท้อนบนหลังคารถแทกซี่ หรือ พวยควันจากหม้อต้มเกาเหลา หรือภาพ แมวเซาบนซอกตึก ได้อย่างดงาม ) สำหรับคนตัวเล็กๆทั้งคู่ในสังคมที่กว้างใหญ่ไพศาลหากบีบคั้นใบนี้

เงาแดด พวยควัน และแมวเซา

ภายใต้ฉากหน้าของการเป็นหนังรัก หนังซ่อนนัยยะพูดถึง โลกของคนตัวเล็ก- ไว้ได้อย่างน่าสนใจ ในโลกของสมบัติ กับนวล (และตัวละครอื่นๆ) ทุกคนล้วนดิ้นรนอย่างยากลำบากในโลกของตัวเอง หนังสะท้อนความบีบคั้นของสังคม ไว้อย่างหนักหน่วงผ่านทางเรื่องเล่าของสมบัติ และ น้าหมู กับบริษัท ฟิวเจอร์ เพอร์เฟคท์ -เพื่ออนาคตที่ดีกว่า- ในโลกที่หมุนเร็วรี่(ถ้าสำนวนของสมบัติต้องบอกว่าราวกับติดจรวด) ผู้คนล้วนแต่มุ่งมองไปสู่ อนาคต อนาคตที่ดีกว่า อนาคตที่เอาเข้าจริงไม่ได้ดีกว่า และอาจไม่กระทั่งมีอยู่จริง ในขณะที่นวลก็ดิ้นรนเพื่อคนที่อยู่ข้างหลัง ซึ่งไม่เคยหยุดร้องขอและนวลไม่เคยปฏิเสธ ในขณะที่คนอย่างต้อย คู่กะกลางวันของสมบัติ ดูจะเป็นตัวแทนคนร่ำรวยที่ที่แท้กลับหลอกลวงกลิ้งกลอก ในโลกที่การทำความดีล้วนชักนำไปสู่เรื่องเลวร้ายและการกลายเป็นคนโง่เง่า หรือที่จริงความดีไม่มีอยู่ และคนอย่างสมบัติ ดีพร้อมที่แท้เป็นเพียงตัวโง่งมเท่านั้น

สถานีที่ไม่มีอยู่ ความดีไม่มีอยู่จริง

-จำไว้นะ อย่าหยุดดี ลุง เอื้อ บอกกับ สมบัติ ตอนที่สมบัติเก็บกระเป๋าเงินได้แล้วนำไปคืนตำรวจ ลุงเอื้อ (อาทร ) เจ้าของกระเป๋า ควักเงินให้ตอบแทนความดีของสมบัติ หากแต่ในค่ำคืนนั้นสมบัติก็ถูกจี้
สมบัติเป็นคนดี ไม่เคยกินอะไรนอกจากโบตัน หากถูกตำรวจจับด้วยเรื่องของยาบ้าหลังรถและ ถูกขุดค้นอดีต เรื่องการฆ่าคนตาย
สมบัติอยากช่วยนวลให้พ้นจากความทุกข์ยาก แต่กบลับถูกบริษัทหลอกลวงจนหมดตัว
ลุงเอื้อกลายเป็นชายแก่วิปริต
สถานีวิทยุที่สมบัตินับเป็นเพื่อนคนเดียวบนโลก ที่แท้กลับเป็นเพียงเทปออกอากาศ และจดหมายในซองสีชมพูจ่าหน้าเรียบร้อยของเขาไม่เคยไปถึง คุณอาธรรมรงค์แต่อย่างใด

หรือความดีไม่มีอยู่จริง เพราะที่สุดสมบัติกลายเป็นไอ้ขี้คุกซ้ำซ้อน และนวลกลายเป็นเมียน้อยตกอับ
ความดีไม่มีอยู่ เป็นความจริง หรือ!

สุนทราภรณ์ และ เอื้อ อาทร

และหากแทนค่าโลกใบเก่าของสมบัติด้วย เพลงสุนทราภรณ์ ละครวิทยุ บทกลอน และสถานีเพลงเก่าแก่ โลกที่เหมือนหลุดมาจากพศ.อื่น โลกใบเก่าเหล่านั้นใช่หรือไม่ที่เป็นตัวแทนของความดีงาม ความดีงาม แบบที่ลุงเอื้อพูดซ้ำๆ ตอนที่กำลังข่มขืนสมบัติ ดีซ้ำสอง ดีซ้ำสาม ดับเบิ้ลดี !

การให้ลุงเอื้อ ที่ มีหน้าตาละม้ายครูเอื้อ สุนทรสนาน มากระทำการแบบนั้นอาจทำให้หลายคนถึงขั้นช๊อค รับไม่ได้ หากที่แท้ นี่คือการแทนค่า เพื่อเสียดเย้ยคุณค่าดีงามเก่าแก่ได้อย่างรุนแรงและเจ็บปวดมาก เพราะหากลุงเอื้อมีค่าแทน ทั้งสุนทราภรณ์และความดีงามแก่ ใช่หรือไม่ ที่ที่แท้ทั้งสองสิ่งได้ตายไปแล้ว เหลือเพียงซากร่างที่พยายามดิ้นรนจะมีชีวิตอยู่ ซ่อนตัวเองไว้ภายใต้ฉากหน้าสวยสะของการหวนไห้อดีต(อดีตที่มักถูกยกยอปอปั้นให้เป็นของเลิศเลอ ดีงาม ) และอ้างความดีงามเป็นเกราะกำบัง
ลุงเอื้อ (การให้ลุงเอื้อ มีชื่อว่า เอื้อ อาทร ไม่ได้เป็นเพียงมุก เพราะการกระทำในตอนท้ายของลุงเอื้อ เสียดสีภาวะ เอื้อ อาทร ที่กลายเป็นประเด็นหลักของรัฐบาลสมัยปัจจุบัน) บอกว่าตัวเองเป็นเพียงคนแก่ที่ดิ้นรน ไม่อยากจะตาย (การทำให้แกมีเครื่องช่วยชีวิตยึดโยงร่างกายเต็มไปหมดเป็นการพยายามยืดชีวิตที่ชวนสยองมากๆ) ละม้ายคล้ายกับการดิ้นรนของเพลงเก่ายุคสุนทราภรณ์ ตัวเพลงแท้ๆนั้นเป็นอมตะแน่เท้อย่างไม่ต้องสงสัย (ความไพเราะของเพลงในเรื่องยืนยันสิ่งนี้เป็นอย่างดี) หากแต่การดิ้นรนจะเอาตัวรอดในยุคสมัยถาโถมของเพลงตะวันตก บางผู้คนจากยุคสมัยของสุนทราภรณ์ กลับเลือก เชิดชูให้ค่าเพลงเหล่านี้ และดูถูกเหยียดหยาม คนที่ไม่ชอบเพลง ถึงขั้นกล่าวหาการไม่อนุรักษ์วัฒนธรรมกันเลย เฉกเช่นความดีงามจากปากของลุงเอื้อ ที่ยิ่งพูดก็ยิ่งลดค่าความดีงามลง ความดีงามที่สุดกลับกลายเป็นเพียงเรื่องยกมาให้เหตุผล และชักนำเรื่องเลวทรามต่ำช้า มาสู่เรา


แต่ความดีงามก็เป็นเช่นเพลงของสุนทราภรณ์ เลยพ้นไปจากการอ้างถึงที่ลดทอนคุณค่า ความดีงาม ยังคงดีงามเสมอ แม้มันจะเลยพ้นล่วงสมัยแล้ว เพราะความดีงามไม่มียุคสมัย ไม่ใช่หมายความว่าเป็นนิรันดร์ แต่หมายความว่ามันสามารถดำรงคงอยู่ในทุกยุคสมัยต่างหาก


รายการวิทยุ กับซีดี

ร้านอาหารที่สมบัติชอบไปนั่ง (และพานวลไปในครั้งหนึ่ง) มีชื่อว่า- ลีลาศนิรันดร - สติกเกอร์บนเบาะรถของสมบัติ เขียนว่า รักแท้ทนทานเหนือกาลเวลา หากแต่ไม่มีสิ่งใด นิรันดร หรืออยู่เหนือกาลเวลา กระทั่งบทเพลงเก่าแก่ และละครวิทยุนั้นที่แท้ก็ล่วงพ้นสมัยไปแล้ว ร้านลีลาศปิดตัวลง และ สติกเกอร์ลบเลือน ตอกย้ำความไม่เที่ยงแท้เป็นนิรันดร์ของโลก

หากแต่ใช่จะมีเพียงรายการวิทยุเท่านั้นที่จะฟังเพลงสุนทราภรณ์ได้


ในตอนท้าย จู่ๆหนังก็พูดถึงการประชุมเทคโนโลยีที่จัดขึ้นในเมืองไทย เหตุการณ์อาจถูกบอกเล่าแบบผ่านๆ ตัดสลับกับภาพของสมบัติในร้านซ่อมเครื่องไฟฟ้า ราวกับจะเสียดเย้ย เมื่อถ้อยคำบอกว่า ผู้มีความสามารถทางคอมพิวเตอร์จะมีโอกาสดีขึ้น (และหนังยังเสียดสีซ้ำสองด้วยการให้สมบัติต้องใช้เครื่องช่วยฟัง เพื่อที่จะได้ยินเสียง ซึ่งนั่นรวมถึงเพลงสุนทราภรณ์ที่เขารักด้วย)
นวลซื้อซีดีให้เขาไว้แต่เขาไม่เคยได้ฟัง เพราะในโลกของสมบัติเขามีเพียงรายการวิทยุ หากแต่ เมื่อวิทยุเป็นเพียงสิ่งลวงตา ก็ใช่ว่าโลกเก่าของเขาจะต้องดับสูญ เพลงในซีดี ไม่ใช่เพียง มีขึ้นเพื่อสร้างสถานการณ์เท่านั้น มันยังเป็นการบอกด้วยว่า ในโลกของเทคโนโลยี (การประชุมเทคโนโลยี) ความดีงามที่แท้ (เพลงของสุนทราภรณ์) ยังคงมีที่ทางของมันอยู่ แต่นั่นไม่ใช่เพราะมันเหนือกาลเวลาหรือเป็นนิรันดร์ (เพราะโลกนิรันดร์ เช่น โลกในรถของสมบัตินั้นก็ไม่มีจริง) หากเพาะมันดีงาม(เหมือนความไพเราะของเพลงต่างหาก) ไม่ต้องวิทยุ ก็เป็นซีดี และเรามีร้อยพันวิธีที่จะเป็นคนดี ในโลกที่มุ่งไปสู่ฟิวเจอร์เพอร์เฟคท์นี้ ให้โลกดีงามในเราหมุนช้าไปกับโลกข้างหนาโดยไม่ถูกหมุนเหวี่ยงออกไปในอวกาศ หรือถูกบดขยี้จนแหลกสลาย

คงเดช จาตุรนต์รัศมี ยังคงนำเสนอเรื่องใหญ่สอดใส้ไว้ในเรื่องเล็กๆได้อย่างน่าสนใจ ในครั้งสยิว เขาเล่าเรื่องของเด็กหญิงในแวดวงหนังสือโป๊ ที่ซ่อนนัยยะช่วงภาวะการเมือง ในยุคสมัยของรสช. ไว้ได้อย่างน่าสนใจ และในครั้งนี้ก็เช่นกัน เขายังคงใช้หนังวิพากษ์ วิจาร์ณสังคม ด้วยลีลานุ่มนวล(อาจซับซ้อน) อย่างน่าสนใจมากๆ ประกอบกับการได้นักแสดง อย่าง หม่ำ ที่พลิกบท ได้จนน่าทึ่ง(สังเกตเอาว่าเสียงหัวเราะขำหม่ำค่อยๆลดลงไปเมื่อหนังดำเนินไปข้างหน้า ) ในขณะที่วรนุช วงศ์สวรรค์ ก็ให้การแสดงที่เป็นแสงสว่างของหนังในทุกฉากที่เธอปรากฏตัว (แต่หากจะว่าไป นี่คือมาตรฐานระดับเดียวกับที่เธอเคยให้ไว้ในการแสดงละครช่องเจ็ด)


และที่ต้องขอบคุณมากๆ คือการเลือกใช้เพลงของสุนทราภรณ์ในหนัง ที่ได้พิสูจน์คุณค่าของเพลงโดยไม่ต้องยกยอกันจนเลิศเลอเลยแม้แต่น้อย

...................................................
footnote

ผมดุหนังเรื่องนี้สองวัน สองรอบ และชอบมากๆ (ถึคงขั้นอาจได้เป็นหนังแห่งปี) ด้วยค่าที่ว่าไม่ค่อยมีหนังสะท้อนสังคมแบบไม่ยัดเยียดแบบนี้มาให้ดูกันมากนัก คารวะ คงเดช สองจอกครับ

แม้จะไม่ใช่คอเพลงสุนทราภรณ์ แต่ในฐานะของ คอเพลงลูกกรุง (แบบเพิ่งหัดฟังได้ไม่นานนัก) ขอขอบคุณ คุณ คงเดชมากๆครับที่เลือกเพลงสุนทราภรณ์มาใช้แบบได้ใจกันเลยทีเดียว

ถ้าจะมีที่ติอันใดในหนัง น่าจะเป็นชื่อหนังที่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ไม่ใช่ชื่อที่เหมาะสมเลย โดยส่วนตัว ผมชอบชื่อ มิดไนท์เพลงรัก ที่สุดครับ เพราะนอกจากจะครอบคลุมเรื่องราวในตัวหนัง มันยังพูดถึงการอยู่ร่วมขอโลกเก่าโลกใหม่ได้ครอบคลุมอีกด้วย

*1ฟังทำนองเพลง ปองใจรัก ได้ที่นี่ครับ


edit @ 2005/06/09 17:43:12

http://www.sa.ku.ac.th/sakuoke/0295mid.html

*2 ได้จากบทสัมภาษณ์ในไบโอสโคปฉบับ 42 ปก เหมืองแร่ครับ


edit @ 2005/09/20 21:29:21
edit @ 2005/09/20 21:31:13



(ID:15770)

ผมชอบเรื่องนี้ดูเป็นความรักที่ใสซื่อดี  ชอบมากครับ  โดนใจครับเพลงก็โดนใจครับ

ชอบจริงๆเพลงเก่าๆมันมีเสน่ห์ในตัวครับ




(ID:15816)

ผมชอบเรื่องนี้ ทั้งเรื่องบทภาพยนตร์ เพลงประกอบ ดนตรีประกอบ เป็นหนังที่ลงตัวเรื่องหนึ่งครับ ดูแล้วชอบมาก ก็ได้ชื้อดีวีดีมาเก็บไว้




(ID:15891)



เลือกหน้า
[1]
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 6

กลับขึ้นข้างบน / กลับหน้าแรก

ค้นกระดานข่าว:


ถูกเปิด: ถูกคลิ๊กแล้ว: 116957626 ตอนนี้มีผู้เข้าชม : 1 ล่าสุด :นนท์ , Jerekioxgew , ProlBlask , RobertMIGH , Sallycgriet , BrianerpGep , AnthonykDraib , Kristenmswony , Edwinjophorie , Stanley ,