ส่วนมาก จอหยกทรายน้ำ คนที่ตัดก็คือ ลุงช้าง KTL ครับ ส่วนลุงเล็กแม่กลองก็เป็นจอหลังเขียวครับ จอสมัยก่อนเวลาฉายภาพจะไม่สะท้อนกลับ แต่พอมาเป็นจอมุขสมัยนี้ เบี่ยงตัวไปดูด้านข้างก็ไม่ค่อยเห็นตัวแล้วครับ แต่ตรงคนฉายนี่แจ่มเหลือเกิน ในส่วนตัวผมชอบ ผ้าจอ สมัยก่อนครับแต่เดี่ยวนี่เขาไม่นำเข้ามาแล้ว ผ้าจอ 18 เมตรของผมซื้อต่อมาจาก (สีเขียวภาพยนต์) กรุงเทพ เป็นจอช้างKTL หลังน้ำเงิน ลุงเขียวตัดมาสมัยสิบกว่าปีก่อน ราคาสามหมื่นสอง สมัยเตาถ่าน ขึ้นใด้ สี่ห้างาน แล้วเก็บใว้ ผมเลยขอซื้อมาใช้ แล้วผมก็ตัดจอ 16 ลุงเล็กหนึ่งผืนราคาหนึ่งหมื่นสี่พันบาทเป็นจอมุข แต่เวลาฉายแล้วสู้จอสมัยก่อนไม่ใด้เลยครับสีสันก็ผิดกัน น้ำหนักนี่ไม่ต้องพูดถึงจะขึ้นจอผืนนี้เมื่อไหล่ละก็เกียงกันทันที คุณก็ลองคิดสิครับว่าผ้าจอสมัยก่อนถูกหรือแพง ครับ
คุณสิงหนุ่มครับ ขอเป็นความรู้ ก่อนผมตัดจอผมใช้ผ้าขาวทำจอมาก่อน ยาวประมาณ 2 เมตร ฉายแล้วจอมันกลืนแสงครับ มันไม่มีแสงสะท้อนดี อยากทราบว่าจอผ้าสมัยก่อนเป็นผ้าแบบไหนครับ เหมือนหรือคล้ายกับผ้าขาวที่ใช้ในงานพิธีทั่วไปครับ ถ้าเป็นหนังกลางแปลงที่ได้ดูแต่ต้นเขาเรียกว่าจอเงินแล้วครับ ไม่แน่ใจว่าคือจอมุกในความหมายเดียวกันหรือเปล่าครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ
ที่ผมเอ๋ยแต่ข้างต้นเป็นจอรุ่นยุคพลาสติกแล้วครับ ไม่ใด้เป็นยุคจอผ้าดิบ สมัยร้านรัตนประเสริฐตัดมานะครับ รุ่นนั้นเป็นจอตั้งแต่หมดยุคหนัง 16 ใหม่ใหม่แล้วครับ
เนื้อผ้าจอสมัยก่อนเนื้อจะละเอียด ไม่รู้เป็นผ้าอะไรผ้าร่มก็ไม่เชิง มันใช้มาก่อนจอพาสติกเราอีก เวลาฉายแล้วต้องเอาไปตากแดดก่อนเก็บไม่งั้น รา ขึ้นทั่งผืนเลยครับ และใช้ได้ไม่นานก็จะสกปรกดำจนน่าเกลียด เพราะมันเป็นเหมือนผ้าร่ม แล้วก็มารุ่นจอ หยก และจอหนังสีขาวพาสติกเราธรรมดาเราที่ไม่เป็นมุข ทุกวันนี้มีแต่จอมุขอย่างเดียวครับ คำถามสุดท้ายผมไม่เข้าใจครับ
![]() | ![]() |
![]() |