(ID:154457)
20.Die Hard: With a Vengeance
เป็นหนังภาคแรกที่ไม่ได้ถูกดัดแปลงบทมาจากนิยาย
21.แต่ว่าแท้จริงบทของหนังภาคนี้ถูกเอามาจากบทที่ชื่อว่า Simon Says
ซึ่งจริงๆจะถูกนำไปใช้ในหนัง Lethal Weapon 3 นั่นเอง
22.Die Hard: With a
Vengeance ภาคนี้ถือเป็นภาคแรกที่จอห์น แมคเคลน ไม่ได้ผจญภัยในสถานที่ปิด ,
ไม่เกี่ยวข้องกับภรรยา และเป็นปัญหาวิ่งเข้ามาหาเค้าเอง
ไม่ใช่ไปอยู่ผิดที่ผิดเวลาแบบ2ภาคก่อน
23.Die Hard 1 และ 2
ถูกซื้อลิขสิทธิ์มาโดย ทเวนตี้ เซนจูรี่ฟ๊อกซ์ เมืองไทย แต่ว่า Die Hard: With a
Vengeance ได้เกิดการพลิกล็อคเพราะตอนนั้นบริษัทหนังนามว่า Right Picture
ได้ชิงซื้อลิขสิทธิ์มาฉายด้วยืทุนที่สูงกว่า ทำให้สมัยนั้น Die Hard: With a
Vengeance เป็นหนังภาคเดียวที่ไม่ได้ออกเป็นVDOของค่าย CVD แต่ออกมาเป็นของ Right
Picture แทน (และได้เสียงพากย์ไทยโดยอินทรีด้วยนะ) โดยลิขสิทธิ์ตัวนี้ยาวไปถึง VCD
ชุดแรกของหนัง ก่อนที่ Right Picture จะเจ๊งและลิขสิทธิ์จะกลับมาสู้อ้อมอกของ
ทเวนตี้ เซนจูรี่ฟ๊อกซ์ เมืองไทย และออกเป็นDVD ครบชุดได้สำเร็จจนถึงปัจจุบัน
ปล.สมัยภาค3ของ Right จะตัดโลโก้ของ ทเวนตี้ เซนจูรี่ฟ๊อกซ์ด้วยนะ
ตอนนี้ใครมีVDO หรือ VCD ชุดของไรท์พิคเจอร์ ถือว่าท่านมีของหายากแล้ว
24.จริงๆแล้ว Die Hard: With a Vengeance
มีฉากจบของมันคือเป็นฉากจบที่แมคเคลนเดินทางไปหา ไซม่อน ที่รัสเซีย
และเล่นเกมเดิมพันที่มีปืนยิงจรวดเป็นตัวตัดสิน
ก่อนที่ไซม่อนจะสิ้นท่าเจอปืนยิงจรวดฆ่าตาย
แต่สุดท้ายเหมือนฉากจบนี้จะไม่ถูกใจผู้บริหารนัก
สุดท้ายจึงต้องมีการเปลี่ยนฉากจบเป็นดั่งปัจจุบัน
25.นับเป็นครั้งที่2 ที่
Bruce Willis และ Samuel L. Jackson ร่วมงานกัน ครั้งแรกจาก Pulp Fiction
26.จริงๆแล้ว Die Hard ภาคนี้บทจะเป็นเรื่องของ
เรือที่ถูกผู้ก่อกการร้ายยึด แต่สุดท้ายบทชิ้นนี้ถูกส่งไปให้หนังเรื่อง Under Siege
ของ Steven Seagal
27.Laurence Fishburne ถูกทาบทามให้มาเล่นบท ซุส
แต่สุดท้ายก็ตกเป็นของ Samuel L. Jackson
28.เช่นเดียวกับตัวร้าย ไซม่อน
กรูเบอร์ ตอนแรกคนที่ถูกทาบทามคือ Sean Connery
แต่สุดท้ายแกปฏิเสธเพราะไม่อยากรับบทตัวร้าย บทจึงเป็นของ Jeremy Irons
29..ชื่อที่ใช้ถ่ายทำหนังตอนแรกคือ Die Hard: New York
30.Die
Hard: With a Vengeance ใช้ทุนสร้างสูงถึง 90 ล้านเหรียญ
แต่ทำรายได้ในอเมริกาไปเพียง 100 ล้านเหรียญ แต่ทั่วโลกรวมกันมากถึง 366 ล้านเหรียญ
นักวิจารณ์ให้เสียงที่แตกต่างกับภาคนี้มีทั้งชอบและไม่ชอบ
31.แรกเริ่มเดิมที Die Hard 4 จะทำต่อหลังจากภาค3ไม่กี่ปีและใช้ชื่อว่า Die
Hard : Tear of the Sun และให้ John McTiernan มากำกับ
แต่ว่าท้ายที่สุดโครงการถูกพับไปเพราะตัวปผู้กำกับดันมีคดีความถึงขั้นขึ่นโรงขึ้นศาล
แต่ว่า Bruce Willis เสียดายชื่อหนังจึงเอาคำว่า Tear of the Sun ไปทำหนังใหม่ซะเลย
32.Len Wiseman ทำหนังสั้นเรื่องแรกของการเรียนคือการทำหนัง Die Hard
ฉบับตัวเอง
33.Live free or Die Hard
เป็นคำล้อเลียนของคำคมของอเมริกาที่เขียนว่า Live free or die: Death is not the
worst of evils
34.Live free or Die Hard
เป็นหนังภาคแรกที่มีชื่อทางการ2ชื่อ อีกชื่อนึงคือ Die Hard 4.0
35.และเป็นหนังภาคแรกที่เรตแค่ PG-13 จากที่หนัง3ภาคก่อนได้เรตRมาตลอด
ซึ่งสร้างความไม่พอใจแก่แฟนๆหนังชุดนี้พอสมควรที่หนังถูกลดความดิบเถื่อนลงทั้งที่เป็นเอกลักษณ์ของหนังตระกูล
Die Hard จนสุดท้ายก็มีการออก DVD เวอร์ชั่น Unrated ขึ้นมา ทำให้แฟนๆพอใจ
36.Live Free of Die Hard ดัดแปลงมาจากบทความนิตยสารที่ชื่อบทความว่า A
Farewell to Arms
37.แรกเริ่มบทของหนังภาคนี้จะเป็นเรื่องของลูกชายแมคเคลน
Jack ที่เป็นแฮ็คเกอร์และจอห์นต้องเอาตัวเค้าไปส่งให้กับ F.B.I
แต่ว่าภายหลังบทของJack ถูกเอาออกและเปลี่ยนเป็นแฮ็คเกอร์หนุ่ม แมท
และเพิ่มบทลูกสาวแมคเคลน ลูซี่ เข้าไปแทน
38.แรกเริ่มบทJack ได้ทาบทาม
Justin Timberlake มาเล่น
39.ถ้าสังเกตุดีๆ
หนังภาคนี้แอบมักง่ายโดยการฉายฉากซ้ำถึง2-3รอบ
40.จริงๆบทลูซี่ถูกลักพาตัวเคยเกือบได้ใช้ในหนังภาค3แล้ว
41.เป็นภาคเดียวที่คำว่า Yippee-ki-yay Motherf_cker พูดไม่เต็มปาก
คำสุดท้ายเจอเสียงปืนกลบ ก่อนจะมาพูดแบบชัดเจนเอาตอนเวอร์ชั่น Unrated
42.นี้คือ Die Hard ภาคแรกที่ไม่ได้ถูกถ่ายทำด้วยระบบ Anamorphic
Panavision เพื่อเป็นการประหยัดงบการสร้าง
43.มีบทพูดหลายๆอย่างที่ถูกเปลี่ยนจากตัวอย่างหนังในหนังภาคนี้
44.Live Free of Die Hard ใช้ทุนสร้างมากถึง 110 ล้านเหรียญ
แต่รายได้ที่อเมริกาทำได้ 134 ล้านเหรียญ และทั่วโลกกว่า 383 ล้านเหรียญ
พร้อมทั้งคำชมจากรักวิจารณ์ถึงความสนุกและการกัดจิกโลกยุคดิจิตอล
แต่ว่าแฟนๆหลายๆคนของหนังชุดนี้ไม่ค่อยชอบภาคนี้เท่าไรนัก
โดยให้คห.ว่าภาคนี้มีสเปเชี่ยลเอฟเฟคมากเกินไป
45.John McClane
เคยปรากฏตัวรับเชิญในหนังตลกล้อเลียนชื่อ National Lampoon's Loaded Weapon
โดยออกมาเป็นเจ้าของรถบ้านที่ถูกยิงผิดคัน ที่สำคัญคือรับบทโดย Bruce Willis
เช่นเดิมด้วย
http://www.youtube.com/watch?v=DN6feERzbo8&feature=player_embedded