รำลึกถึงหนังเรื่องนี้กันหน่อยครับ

หนังภาคแรกออกฉายในปี 1980 (บ้านเราเอาเข้ามาฉายปี 1983) ด้วยทุนสร้างแค่ 5 แสนกว่าเหรียญ ... แต่ปรากฎว่า หนังทำรายได้ทั่วโลกไป 50 กว่าล้านเหรียญ

ผู้กำกับ ฌอน เอส คันนิ่งแฮม ได้แรงบันดาลใจมาจากหนังดังเรื่อง ฮัลโลวีน มาทำเรื่องนี้

เควิน เบคอน ร่วมแสดงด้วย ก่อนที่จะมาโด่งดังในเวลาต่อมากับเรื่อง Footloose - ฟูตลูส ตีนมีหัวใจ

Friday The 13th Part 2 (1981) - ศุกร์ที่ 13 ภาค 2

สตีฟ ไมเนอร์ ที่เป็นผู้ช่วยของผู้กำกับคันนิ่งแฮมจากภาคแรก มานั่งกำกับในภาคนี้ (และภาค 3 ด้วย)

เจ้าเจสัน หยิบหน้ากากฮ็อคกี้มาใส่ ปิดบังหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัว กลายเป็นสัญลักษณ์ของหนังชุดนี้ไปเลย

มีนักแสดง 2 คนมาสลับกันเล่นบทเจสัน โดยคนนึงตอนใส่หน้ากาก และอีกคนตอนไม่ใส่หน้ากาก

Friday The 13th Part 3 : 3D (1982) - ศุกร์ที่ 13 ภาค 3

สตีฟ ไมเนอร์ มานั่งกำกับต่อ โดยถ่ายทำด้วยระบบ 3 มิติ แบบเดียวกับที่ใช้ในเรื่อง จอว์ส ภาค 3

ช่วงแรกที่เรื่องนี้ออกเป็นวีดีโอและดีวีดีในเวลาต่อมา ไม่ได้ทำเป็น 3D เป็นแบบ 2D ธรรมดาเท่านั้น

ปี 2009 นี่เอง ที่ออก DVD เป็นแบบ 3D

ในบ้านเรา เอาภาค 2 และ 3 มาฉายในปีเดียวกันเมื่อปี 1984 (2527)

Friday The 13th : The Final Chapter (1984) - ศุกร์ที่ 13 ภาค 4

ชื่อเรื่องดูเหมือนจะบอกว่า เป็นภาคสุดท้ายแล้วนะ ... แต่แล้ว ... มันก็จะกลับมาอีก เชื่อเหอะ

หลังจากนี้ เจ้าเจสันก็เจอคู่แข่งคนสำคัญอย่างเจ้าเฟร็ดดี้ ทำให้ดูจ๋อยลงไปถนัดตา ... ภาค 5-6-7-8 บ้านเราลงม้วนโลด ตามไปเช่ากันมาดูเท่านั้น 55

และแล้ว ฌอน เอส คันนิ่งแฮม ผู้กำกับที่เปิดตำนานหนังชุดนี้ ก็มาอำนวยการสร้างภาคต่อ หวังให้เจ้าเจสันกลับมาทวงบัลลังก์ นักฆ่าผีบ้าโรคจิต อีกครั้ง

Jason Goes To Hell : The Final Friday (1993) - ศุกร์ 13 ฝันหวาน (วันศุกร์แบบนี้ จะไม่มีอีกแล้ว)

เอาเข้ามาฉายโดย นนทนันท์ฯ ตามที่ท่านพี่จุ๊บบอกไว้นั่นล่ะครับ

หลังจากจบภาคที่ 9 ลงไปแล้ว ดูเหมือนว่าเจ้าเจสันจะลงนรกหมกไหม้ไปแล้วแน่ๆ ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดกันแล้ว ... แต่อย่างว่า หมอนี่มันอึดซะยิ่งกว่าพี่บรูซ วิลลิสซะอีก ... มันเลยต้องโผล่มาอีกครั้ง แต่คราวนี้ไปไกล ไปโผล่กันนอกโลกโน่น

Jason X (2002) - เจสัน โหดพันธุ์ใหม่ศุกร์ 13

ปีต่อมา เจ้าผีบ้า 2 ตัวที่แข่งกันโหดมาช้านาน ทั้งเจ้าเจสัน แห่งบ้านศุกร์ 13 และเจ้าเฟร็ดดี้ แห่งบ้านนิ้วเขมือบ (แม๊ ยังกะบ้านเอเอฟ กะ บ้านเดอะสตาร์) ... ไหนๆ ทั้งคู่ก็ได้เซ็นสัญญามาอยู่ค่ายอากู๋ เอ้ย ค่ายเดียวกันอย่างนิวไลน์แล้ว ผู้สร้างก็ไม่รู้ว่าจะสร้างให้มันไปฆ่าใครอีก เลยจับมันมาฆ่ากันเองซะเลยดีกว่า ... น่าจะถูกใจสาวกของทั้งคู่

Freddy VS Jason (2003) - ศึกวันนรกแตก

ปี 2009 ไมเคิล เบย์ ผู้กำกับชื่อดังที่ชอบดูหนังหยองๆ เป็นชีวิตจิตใจ ได้นำเอาหนังเก่าๆ มาสร้างกันใหม่หลายเรื่อง หนึ่งในเรื่องเหล่านั้นก็ย่อมต้องมี ศุกร์ 13 อยู่ด้วยแน่นอน

Friday The 13th (2009) - ศุกร์ 13 ภาค 12

... ผมว่านะ เดี๋ยวต้องมีภาค 13 ต่ออีกแน่ๆ และคราวนี้มันจะน่ากลัวขนาดไหน ศุกร์ 13 แล้วยังเป็นภาคที่ 13 อีก ... เหอ เหอ ... จบดีกว่า

ต้องย้อนไปสมัยก่อน

ถ้าเป็นหนังที่มีสตูดิโอหลักสร้างและจัดจำหน่าย ในบ้านเราจะมีตัวแทนในการจัดจำหน่าย เรียกว่า เมเจอร์กรุ๊ป ... ค่ายหลักๆ ก็มี ยูนิเวอร์แซล , พาราเม้าท์ , เอ็มจีเอ็ม , ยูไนเต็ดอาร์ทติส (ภายหลังค่ายเหล่านี้จะแยกออกมาอีกที มีตัวแทนหลักในการจัดจำหน่ายทั่วโลกคือ ยูไอพี) ... โคลัมเบีย , ไทรสตาร์ , ดีสนี่ย์ (ภายหลังก็แยกมาจัดจำหน่ายในนาม CTBV ก็คือ โคลัมเบีย ไทรสตาร์ บัวน่าวิสต้า) ... ฟ็อกซ์ , วอร์เนอร์ (2 ค่ายนี้มีผู้จัดจำหน่ายคือ ฟ็อกซ์วอร์เนอร์)

ส่วนค่ายอื่นก็ถือว่าเป็นค่ายอิสระ พวกเสี่ยทั้งหลายก็ไปแย่งซื้อกันเอง เช่น แคนนอนกรุ๊ป , ดิโนเดอลอเรนติส , นิวเวิลด์ , คารอลโก ฯลฯ

ตรงนี้ดูง่ายๆ ... ในบ้านเราค่ายอิสระก็มี เอเพ็กซ์ (ตอนนั้นใช้ชื่อ ปิรามิด) , สหมงคลฟิล์ม , โอเอ (โอเรียลตอลอาร์ทติส) ... ค่ายพวกนี้ก็แย่งกันซื้อหนังจากค่ายอิสระกันเอง ... เช่น แรมโบ้ 1 (นักรบเดนตาย) สหมงคลฟิล์มซื้อมาได้ พอมาภาค 2 เอเพ็กซ์ซื้อมาได้ และพอถึงภาค 3 สหมงคลฟิล์มซื้อมาได้ แถมยังไปซื้อภาค 2 ย้อนหลังมาฉาย 1+2 เพื่อบิ้วท์กันก่อนภาค 3 จะฉายอีกที ... คนเหล็ก 1 เอเพ็กซ์ซื้อมา พอภาค 2 สหมงคลฟิล์มทุ่มสุดตัวแย่งมาจนได้ ต่อมา คารอลโก ผู้สร้าง ขาดทุนป่นปี้ ขายบริษัททิ้ง และหนังชุดนี้ถูกซื้อสิทธิ์ไปโดยโซนี่ (โซนี่ จากญี่ปุ่น เข้าไปซื้อโคลัมเบียไทรสตาร์ เราเลยได้เห็นชื่อ โซนี่พิคเจอร์ส) คนเหล็ก ภาค 3 เลยเข้ามาอยู่ในสตูดิโอใหญ่อย่างโซนี่ ทำให้เสี่ยเจียงได้แต่มองตาปริบๆ มีเงินก็ไปซื้อไม่ได้

มาถึงหนังชุด ศุกร์ 13 ... ผู้สร้างจริงๆ คือพาราเม้าท์ แต่ในการจัดจำหน่ายนอกตลาดอเมริกา ให้วอร์เนอร์ไป ในบ้านเราจึงเห็นโลโก้วอร์เนอร์หราเลย (ดูจากภาพข้างบนที่ภาคแรกเปรียบเทียบ)

จนมาถึงภาคที่ 9 หนังถูกโอนสิทธิ์การสร้างมาที่ นิวไลน์ ซึ่งเป็นค่ายอิสระ ... นนทนันท์ ก็ไปแย่งซื้อมาฉาย ... อย่างที่รู้กันว่าช่วงนั้น นนทนันท์ ถือสิทธิ์หนังของนิวไลน์เป็นหลัก แต่ก็ไม่ใช่ทุกเรื่อง บางทีเสี่ยเจียงก็ไปแย่งมาได้บ้าง แล้วแต่การตกลง

ในส่วนตลาดวีดีโอ หนังของสตูดิโอหลัก จะถูกจัดจำหน่ายโดย CIC Video ซึ่งในบ้านเรา ช่วงโน้น ผู้ที่ได้สิทธิ์มาลงม้วนให้เช่ากันคือ บริษัท ซีเนคัลเลอร์แล็ป (ก็มาเปลี่ยนเป็น CVD นี่แหละ) ... ประมาณนี้ครับ มั่วบ้าง อะไรบ้าง 55

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ....