Mobile Version / สำหรับโทรศัพท์มือถือ ยินดีต้อนรับท่านผู้มาเยือน www.peoplecine.com ท่านยังไม่ได้ log in นะครับ เข้าใช้งานระบบ / สมัครสมาชิก/ ลืมรหัสผ่าน

ประธานกรรมการ :ปวีณ เขื่อนแก้ว
เวบมาสเตอร์:อนุกูล วิมูลศักดิ์ 084-819-7374,095-308-6840


= ภายใน24ชั่วโมง , = ภายใน 3 วัน = ทั่วไป , = คลาส2 , = คลาส3 ,
รูป
หนังอินเดียในอดีต ทุกยุค ทุกสมัยเจ้าของ อ่าน ตอบ ผู้ตอบหลังสุด
- หนังอินเดียหลากสไตล์ที่น่าสนใจ473010.. 1/1/2556 13:48
-สามพี่น้อง71568.. 2/12/2555 19:46
- เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ขนหนังบอลลีวู้ด 3 เรื่องใหม่ เข้าฉายในเดือน พฤศจิกายน 2555 นี้61967.. 29/11/2555 14:19
-มารู้จักคำว่า Bollywood กันครับ38981.. 22/11/2555 14:44
-ความประทับใจในหนังอินเดีย ยุคคลาสสิค1536317.. 6/10/2555 4:23
-เทศกาลศตวรรษภาพยนตร์อินเดีย 2012 @ SF World Cinema ชมฟรี50681.. 4/10/2555 21:18
-Dabangg มือปราบกำราบเซียน อาเจย์ ดาฟกัน หนังสุดมันส์จาก Bollywood115298.. 28/9/2555 13:07
-Singham "อาเจย์ ดาฟกัน" ว่าที่ จา พนม แห่งอินเดีย หนังสุดมันส์จาก Bollywood74106.. 17/9/2555 13:10
-Aakrosh "มือปราบกำราบอิทธิพลมืด" สุดมันส์และตื่นเต้น จากBollywood อาเจย์ ดาฟกันย์ และ อาเชฟย์ คานน่า49009.. 20/8/2555 19:14
-มีหนังแขกมาฝากครับ48965.. 15/8/2555 22:28
-ช้างเพื่อนแก้ว - Haathi Mere Saathi120056.. 15/8/2555 15:02
-Robot/มนุษย์โรบอท จักรกลเหนือโลก 29800ยังไม่มีคนตอบ
-vdo/vcd/dvd หนังอินเดีย มาโพสต์แบ่งกันชมครับ1065617.. 15/7/2555 23:30
-รบกวน ข้อมูลเบนเฮอร์ เวอร์ชั่นอินเดีย ครับ28019.. 6/7/2555 7:44
-นายห้าง ดีวันจันทร์29804.. 19/6/2555 12:25
-กาบี กาบี้72845.. 18/6/2555 15:48
เลือกหน้า
[<<] [7] [8]
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 115

(ID:4548) ความประทับใจในหนังอินเดีย ยุคคลาสสิค



ในสมัยก่อนเพลงประกอบหนังอินเดียจะมีความไพเราะมาก ที่โรงหนังศรีอุดรหลังบ้านผมจะมีร้านขายแผ่นเสียงอยู่หน้าโรงหนังถึง 2 ร้านด้วยกัน พอดูหนังแขกจบก็เดินออกมาซื้อแผ่นเสียงเพลงประกอบหนังได้ทันทีเลย ไม่ว่าจะเป็นหนังจีน หนังอินเดีย หนังไทยหรือหนังฝรั่งก็มีขายครับ ในสมัยนั้นถือว่าเป็นยุคการตลาดที่ดีทีเดียวที่มีร้านขายแผ่นเสียงหนังโรงหนังศรีอุดรบ้านผม พอดูหนังเสร็จก็ออกมาซื้อแผ่นเสียงเพลงประกอบหนังทันทีเลยครับ
เริ่มจากแผ่นเสียงเพลงประกอบหนังเรื่อง 3 พี่น้องครับ เป็นหนังที่ดีมากเพลงก็ไพเราะมากด้วยครับดูกี่ครั้งก็ไม่เบื่อเลย ตอนนี้เก็บสะสมทั้งแผ่นเสียง (ซื้อมาร่วม 30 ปีแล้ว) และภายหลังก็มีแผ่นวีซีดีและแผ่นดีวีดีออกมาขายด้วยครับ สำหรับเนื้อเรื่องก็เกี่ยวกับพี่น้อง 3 คนที่บ้านแตกเพราะมีคนมาฆ่าพ่อแม่และทำให้พี่น้องต้องพลัดพรากจากกันจนกระทั้งโตขึ้นมาในตอนหลังก็มาเจอกันและร่วมมือกันแก้แค้นได้สำเร็จครับ ข้อสำคัญเพลงประกอบหนังเรื่องนี้เพราะมากเด้อ ทุกวันนี้ผมยังฮัมเพลง YAADON KI BAARAT  ได้สบายมากครับเอาไว้วันหลังจะให้นายนโอ มีเดียเอา MV ที่ผมตัดต่อเสร็จแล้วมาลงให้ดูนะครับ




+ +
+ +

ความเห็น

[1]


(ID:42344)
แผ่นดีวีดีที่ได้มาครับเป็นของค่ายพี่โต๊ะทำออกมาขายครับ คุณภาพใช้ได้ครับแถมก็พากย์ได้ดีมากด้วยครับ นี่ถ้ามีเสียงของทิวา - ราตรี ในสมัยก่อนจะยิ่งได้ฟิวส์ดีแท้ครับ

+ +
++


(ID:42345)
เรื่องต่อมาคือเรื่องบ๊อบบี้ครับ เสียดายที่เรื่องนี้ยังไม่มีใครทำเป็นแผ่นดีวีดีมาขาย ยกเว้นมีแต่แผ่นวีซีดีเท่านั้นครับ ส่วนเพลงประกอบเรื่องนี้ก็ฟังในแบบจังหวะที่สนุกสนานดีครับ

+ +
++


(ID:42347)


+ +
++


(ID:42348)
เรื่องต่อมาคือโชเล่ย์ครับ มี 2 ดารรานำในยุคนั้นคืออปิตาป บาจันกับทราแมนเดอร์ร่วมแสดงด้วยกันเพลงประกอบหนังเรื่องนี้ดังมากจนถึงขนาดตลกคาเฟ่บ้านเราได้นำเพลงนี้มาล้อเลียนกันอย่างสนุกสนานนั่นไง ยกตัวอย่างเช่นตลกโชเล่ย์ ดอกกระโดนนั่นไง

+ +
++


(ID:42349)
หนังโชเล่ย์นี่มีทั้งแผ่นดีวีดีที่ทำมาขายโดยค่ายพี่โต๊ะและวีซีดีของค่ายอื่นที่ทำออกมาขายเหมือนกัน รู้สึกจะพากย์โดยทีมอินทรีนะครับ

+ +
++


(ID:42536)

หนังอินเดีย เคยเข้ามาฉายในบ้านเราในช่วงก่อนปี พ.ศ. 2500 ซึ่งขณะนั้นยังเป็นฟิล์ม 16 มม.  ขาว-ดำ ส่วนผู้จัดจำหน่ายหนังอินเดียซึ่งมี 2 ราย คือ อินเดียฟิล์ม, ดีวันจันทร์ ซึ่งนายห้างปักหลักอยู่หลังเฉลิมกรุง ยุคนั้นมีหนังอินเดียที่สั่งเข้ามาฉายเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับเทพเจ้า หรือแนวดรามา หนังชีวิตเศร้าเคล้าน้ำตา

 

โรงภาพยนตร์ในกรุงเทพ ฯ ที่ฉายหนังอินเดียเป็นหลัก คือ โรงหนังเท็กซัส ย่านเยาวราช (ปัจจุบันกลายเป็นร้านสุกี้ไปแล้ว) สมัยนั้น หนังอินเดีย ได้รับความนิยมอย่างสูง ไม่ว่าจะเป็นในกรุงเทพ หรือตามชนบทจากหนังกลางแปลง ขณะที่หนังจีนยังมีน้อย

 

นางเอกยอดนิยมในขณะนั้น ก็มี นีรูปารอย  มีนากุมารี ส่วนพระเอกก็มี ราช การ์ปู / ราช กุมาร / เมห์มูด ดาราตลก ส่วนนางระบำ คือ เฮเลน

 

ต่อมาหนังอินเดียได้พัฒนาจากหนังขาว-ดำ ระบบ 16 มม. มาเป็นระบบ 35 มม. พร้อมสีสวยเฉพาะบางฉากบางตอน ก่อนที่จะเป็นหนังสีตลอดเรื่อง หนังอินเดียที่สะกดอารมณ์และบีบน้ำตาผู้ชมได้มากที่สุด คงไม่มีเรื่องใดเกิน "ธรณีกรรแสง" (Mother India)

 

เมื่อหนังอินเดียได้พัฒนาขึ้น ก็มีดารายอดนิยมในยุคต่อมาที่แฟนภาพยนตร์ชาวไทยนิยมชมชอบ อาทิ ราเยส คานนา, มุมตัส, เฮมา มาลินี เรียกว่าฮิตพอ ๆ กับ ดาราไทย มิตร- เพชรา เลยทีเดียว หนังอินเดียเรื่องไหนที่ดาราคู่นี้แสดง ผู้ชมในบ้านเราตัดสินใจซื้อตั๋วเข้าชมทันที หนังอินเดียที่สร้างประวัติการณ์การฉายยาวนาน และทำรายได้ทั้งในกรุงเทพฯ และ ต่างจังหวัดมหาศาลคือ ช้างเพื่อนแก้ว ทำลายสถิติทุกแห่งที่ฉาย พระเอกเรื่องนี้คือ ราเยส คานนา นางเอกคือ ทานูจา แต่ที่โดดเด่นมากที่สุดก็คือ บรรดาช้างแสนรู้

 

นอกจากนี้ยังทำให้นักพากย์ฝีปากเอก ทิวา - ราตรี เจ้าของหนัง กลายเป็นมหาเศรษฐี

 

หนังอินเดียก็มีเสน่ห์เฉพาะตัว อาทิ เพลงประกอบในเรื่อง ซึ่งหนังอินเดียบางเรื่องให้นางเอกร้องเพลงไป วิ่งข้ามภูเขาไปถึง 4 ลูก 5 ลูก แถมยังยักย้ายส่ายเอวยั่วพระเอกอีกต่างหาก ต่อมาก็เริ่มมีซาวด์แทรคเพลงจากภาพยนตร์อินเดียในรูปแบบแผ่นเสียงออกวางจำหน่าย

 

ด้วยอิทธิพลของเพลงที่อยู่ในหนังอินเดีย ก็มีนักแต่งเพลงลูกทุ่งนำทำนองของเพลงจากหนังอินเดียมาใส่เนื้อภาษาไทย เช่น เพลงสาวนาคอยคู่ ขับร้องโดย บุปผา สายชลซึ่งเป็นเพลงลำดับที่สองของภาพยนตร์ไทยเรื่อง "มนต์รักลูกทุ่ง" รุ่นมิตร-เพชรา (ต้นฉบับเดิมคือหนังอินเดียเรื่อง "รอยรักรอยมลทิน") หรือเพลงธรณีชีวิต ขับร้องโดยชาตรี ศรีชล และยุพิน แพรทอง ส่วนเนื้อร้องแต่งโดยครูพงษ์ศักดิ์ จันทรุกขา หรือหนังอินเดียเรื่อง รอยมลทิน ขายชีวิต ที่มุมตัส นำแสดง ก็ให้ไพรวัลย์ ลูกเพชร เป็นต้น

 

สำหรับโรงหนังที่ฉายหนังอินเดีย นอกเหนือจากเท็กซัสแล้ว ยังขยายไปถึงโรงหนังควีนส์ วังบูรพา และ โรงหนังบางกอก ย่านราชปรารภ หนังอินเดียดัง ๆ นั้น ถ้าออกเดินสายก็ยังสามารถเก็บเงินได้เป็นกอบเป็นกำ

 

เมื่อสภาพสังคมเปลี่ยนแปลงไป หนังอินเดียก็เริ่มหมดความนิยมลง ประกอบกับโรงหนังที่เคยฉายหนังอินเดียต่างพากันยุติกิจการ แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงมีหนังอินเดียให้เห็นประปราย ในลักษณะการขายให้กับ "สายหนัง"

 

ยุคที่สองของหนังอินเดียในบ้านเรา ก็คือช่วงทศวรรษ พ.ศ. 2530 เมื่อกมล กุลตังวัฒนา ซึ่งตอนนั้นเป็นเจ้าของโรงภาพยนตร์แอมบาสเดอร์ ได้ซื้อหนังอินเดียเข้ามาอีกครั้ง ภายใต้ชื่อ "ดวงกมลมหรสพ" ซึ่งหนังอินเดียที่ได้รับความนิยมในยุคนี้ได้แก่ KHUDA GAWHA รักข้าเหนือชีวิต, หมาเลี้ยงลูกคน (มี 2 ภาค แต่ภาคแรกได้รับความนิยมมากกว่า), ลูกสองแม่, ความรักของจันทนี, รอยรักรอยแค้น, สะใภ้คืนเดียว, ลัมมานี เป็นต้น ทว่าหนังอินเดียในยุคที่สองนี้ก็ได้รับความนิยมได้ไม่นานนัก

 

ส่วนในยุคที่สามนี้ ต้องถือว่าเป็นยุคเฉพาะกิจ กล่าวคือ มีการนำหนังอินเดียมาฉายตามเทศกาลภาพยนตร์ที่จัดขึ้นในกรุงเทพ ฯ เป็นครั้งคราว ซึ่งก็จะมีจำกัดแค่ผู้ชมที่เป็นชาวอินเดียในบ้านเรา ส่วนผู้ชมที่เป็นคนไทยนั้นยังน้อยมาก อย่างล่าสุดก็จะเป็นเรื่อง SLUMDOG MILLIONAIRE ซึ่งเรื่องนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ชมชาวไทย (ว่ากันว่าเต็มทุกรอบ เมื่อมาฉายที่โรงหนังเครือเอเพ็กซ์ สยามสแควร์)




(ID:42585)

เมื่อสมัยเด็ก ๆ ก็ชอบดูครับ พวกเล่นวิ่งร้องเพลงข้ามภูเขา อาเล้ อาเล ตามทำนองเพลง  พอโตขึ้นหาแผ่นมาดูอีกครั้ง ยังนึกอยู่ว่า " ตูดูจนจบได้ไงวะ " 555




(ID:42992)


ได้แล้วครับ เฮีย โทษที มันต้องใส่ ข้อความด้วย




(ID:46619)
ตอนเด็กๆ ผมเคยชมเรื่องบ๊อบบี้ครับ จำได้ว่า สนุกและประทับใจมาก พระเอก-นางเอก หล่อและสวยมากครับ แต่จำเนื้อเรื่องไม่ได้แล้ว..



(ID:46661)

สมัยนั้น  ทิวา-ราตรี  มาสมัครลงรับเลือกตั้งผู้แทนราษฎรที่พัทลุง นำหนังมาฉายทุกหมู่บ้าน ที่หาเสียงดูกันสนุกมาก เช่น ช้างเพื่อนแก้ว  สามพี่น้อง  โชเล่ย์  ฟิล์มน่าจะพังตอนนั้นละ

 




(ID:139389)
หนังอินเดียเหล่านี้ถือว่าเป็นหนังในดวงใจของผมมากๆระดับขึ้นหิ้งแล้วครับ



เลือกหน้า
[1]
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 11

กลับขึ้นข้างบน / กลับหน้าแรก

ค้นกระดานข่าว:


ถูกเปิด: ถูกคลิ๊กแล้ว: 116952278 ตอนนี้มีผู้เข้าชม : 1 ล่าสุด :Sallycgriet , BrianerpGep , AnthonykDraib , Kristenmswony , Edwinjophorie , Stanley , RobertMIGH , ProlBlask , Robbsf , Jamesfap ,