หน้ากากเสือ เนื้อเรื่องกล่าวถึงนักมวยปล้ำอาชีพ ที่สวมหน้ากากรูปหัวเสือปิดบังใบหน้าขึ้นต่อสู้บนเวที ในชีวิตปกติเขามีชื่อจริงว่า นะโอะโตะ ดะเดะ  เป็นเด็กกำพร้าที่ได้รับการเลี้ยงดูมาจากองค์กรลับที่ชื่อว่า "ถ้ำเสือ" เดิมเขาเป็นนักมวยปล้ำของถ้ำเสือ ใช้ชื่อในการปล้ำว่า ปิศาจเหลือง  เมื่อเขาลาออกจากองค์กรและเปลี่ยนชื่อเป็นหน้ากากเสือ จึงถูกตามล่าโดยส่งปิศาจเหลืองคนใหม่มาต่อสู้ด้วย โดยหมายจะสังหารหน้ากากเสือต่อหน้าผู้ชมบนสังเวียนต่อสู้

ดูกันแบบทั้หมู่บ้านมี ทีวีเครื่องเดียว คนดูแน่นกันเลยที่เดียว 

ข้อมูลเพิ่มเติม :จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

เค้าคือ ไอดอล ของผมเลยครับ

ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกว่าจะฉายที่ช่อง 5 นะครับ ผมเคยดูตอนเย็นๆ พอจบก็ต่อด้วย ไอ้มดเขียว วี 3

หน้ากากเสือ....Tiger Mask

อ้างอิงภาพจาก http://www4.airnet.ne.jp/pancra/tigre/index/chara.html

กาลครั้งหนึ่งไม่นานนัก โลกได้ทำความรู้จักกับฮีโร่นาม "หน้ากากเสือ" เขาเป็นฮีโร่ที่แทบไม่แตกต่างอะไรไปจากคนทั่วไป ฝีมือที่เก่งกล้าได้มาจากการฝึกฝนอย่างหนัก เบื้องลึก ในจิตใจเขาก็ไมได้บริสุทธิ์ผุดผ่อง หากแต่มีส่วนผสมทั้งซีกขาวและดำ   เพียงแต่เขาเลือกข่มด้านมืดสนิทเอาไว้ข้างในสุด แล้วปล่อยให้จิตใจฝั่งที่ดีงามได้โชนแสงส่องสว่าง

จากวันที่เขาปรากฎตัวครั้งแรกถึงวันนี้นับเวลาได้กว่าสามสิบปี หลายๆสิ่งที่ปรากฎในวันนั้น ยังคงมีให้เห็นในวันนี้ การต่อสู้ยังคงอยู่คู่มนุษย์ ในรูปแบบที่รุนแรงและซับซ้อนกว่าการห้ำหั่นกันบนเวที สังคมที่อ่อนแอ และเด็กด้อยโอกาสที่อิดโรยยังไม่มีแนวโน้มว่าจะลดจำนวนลง เช่นเดียวกันกับจำนวนของคนที่ทำความดีโดยไม่ปรากฎตัว ...เราเชื่ออย่างนั้น

ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่คุ้นเคยกับหน้ากากเสือ เรากำลังจะพาฮีโร่เพื่อนเก่าของคุณมาให้เจอ แต่สำหรับคนที่ยังไม่เคยรู้จัก เรามีเพื่อนใหม่มาแนะนำให้รู้จัก เขาเป็นคนดีที่หน้าคบหา และน่าจะสร้างแรงบันดาลใจอะไรบางอย่างให้กับเราได้

หน้ากากเสือเริ่มต้นจากหนังสือการ์ตูนที่เขียนเรื่องโดย อิคคิ คาจิวาระ และวาดภาพโดย นาโอคิ ทซึจิ เมื่อปี 1969 ต่อมาเมื่อ หนังสือการ์ตูนได้รับความนิยมในเวลาอันสั้น จึงมีผู้นำมาทำเป็นการ์ตูนอนิเมชั่นซึ่งมีลายเส้นและเนื้อหาที่ผิดแผกออกไปเล็กน้อย

อนิเมชั่นเรื่องหน้ากากเสือมีความยาวทั้งหมด 105 ตอน ออกอากาศที่ญี่ปุ่นครั้งแรกวันที่ 2 ต.ค. 1969 จนถึงวันที่ 30 ก.ย.1971 - หลังจากนั้นราว 10 ปี หน้ากากเสือก็ถูกนำมาทำเป็นภาคสอง โดยมีส่วนเชื่อมกับภาคแรกเพียงแค่หน้ากากเสือคนใหม่นี้เป็นเด็กกำพร้าเหมือนกันเท่านั้น ภาคสองมีความยาวประมาณ 50 ตอน เนื้อหายังคงมีฉากบู๊ที่เข้มข้นเหมือนเดิมแต่ไฮเทคขึ้น แต่ไม่ได้รับความนิยมเท่าภาคแรกเนื่องจากขาดเนื้อหาที่กินใจซึ่งเป็นจุดเด่นของภาคแรก

ส่วนนักมวยปล้ำตัวจริงๆที่ใช้อิมเมจของหน้ากากเสือขึ้นปล้ำในวงการมวยปล้ำญี่ปุ่น ก็เป็นนักมวยปล้ำฝีมือดีที่ได้รับอิทธิพลจากการ์ตูนหน้ากากเสือ และได้มีการสืบทอดต่อเนื่องกันมาเป็นรุ่นๆจนถึงปัจจุบัน

หน้ากากเสือปรากฎตัวบนสังเวียนครั้งแรกด้วยภาพของนักมวยปล้ำฝีมือดีที่เพิ่งกลับมาจากอเมริกาพร้อมฉายา "Yellow Devil"  ที่ได้มาจากการเป็นนักมวยปล้ำฝ่ายอธรรมที่ปล้ำนอกกติกาทุกรูปแบบ ร่างกายที่แข็งแกร่ง และฝีมือที่แก่กล้าของหน้ากากเสือได้มาจากการฝึกอย่างหนักหน่วงตลอดระยะเวลาสิบปีที่ "ถ้ำเสือ"องค์กรลับที่เที่ยวพาตัวเด็กจากทั่วโลก มาเคี่ยวกรำฝึกให้เป็นนักมวยปล้ำฝ่ายอธรรม โดยมีเงื่อนไขว่าต้องส่งเงินครึ่งหนึ่งที่ได้รับจากการปล้ำกลับมาให้ถ้ำเสือ ถ้าใครแหกกฎต้องได้รับโทษตายสถานเดียว

นอกสังเวียน หน้ากากเสือคือ "นาโอโตะ ดาเตะ" ( การ์ตูนบ้านเราใช้ "เนาโตะ") เด็กหนุ่มผู้มีจิตใจดีงาม และรักการช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน อดีตเด็กกำพร้าที่อาศัยอยู่ในบ้านเด็กกำพร้าชิบิโกะ แต่เขาก็หายตัวไปอย่างลึกลับเมื่อตอนไปทัศนศึกษาที่สวนสัตว์ คำพูดสุดท้ายที่ทุกคนได้ยินจากปากนาโอโตะคือ "ฉันแข็งแรงเหมือนเสือ"

เมื่อนาโอโตะกลับมาญี่ปุ่นอีกครั้ง เขาก็หมั่นกลับไปเยี่ยมบ้านเด็กกำพร้าชิบิโกะโดยไม่ให้ใครได้ล่วงรู้ว่าเขาคือหน้ากากเสือแต่บ้านเด็กกำพร้าที่เปลี่ยนมือมาดูแลโดยเพื่อนสมัยเด็กที่ชื่อ"วากาซูกิ" และน้องสาว "รูริโกะ" แห่งนี้กำลังประสบภาวะหนี้สินรุงรัง และใก้ลจะถูกยึด ทำให้นาโอโตะต้องเข้ามาช่วยเหลือด้วยการมอบเงินให้ทุกเดือน โดยโกหกว่าเป็นมรดกที่ได้รับมา แต่ที่จริงแล้วเงินก้อนที่ว่าเป็นเงินที่นาโอโตะต้องส่งให้กับถ้ำเสือนั่นเอง ดังนั้นเมื่อเขาทำผิดกฎถ้ำเสือจึงส่งนักมวยปล้ำคนแล้วคนเล่ามาปล้ำกับหน้ากากเสือด้วยหมายจะฆ่าหน้ากากเสือบนวที

ด้วยความที่หน้ากากเสือเป็นขวัญใจของเด็กๆ ไม่ว่าเขาจะทำอะไร เด็กๆก็เอามาเป็นตัวอย่าง รวมทั้งการปล้ำแบบสกปรกด้วยนั้น ทำให้รูริโกะต้องมาขอร้องให้หน้ากากเสือหันมาปล้ำแบบขาวสะอาดเพื่อจะได้เป็นตัวอย่างที่ดีแก่เด็กๆ เขาจึงยอมเปลี่ยนสไตล์การปล้ำ แต่ก็มีหลายๆครั้งที่หน้ากากเสือหมดทางเลือกหรือควบคุมตัวเองไม่อยู่ต้องปล้ำผิดกติกาอีก ซึ่งก็ทำให้หน้ากากเสือรู้สึกผิดทุกครั้ง  ตลอดทั้งเรื่องหน้ากากเสือต้องแข่งขันกับนักมวยปล้ำหลากหลายรูปแบบทั้งนักฆ่าจากถ้ำเสือ และนักมวยปล้ำอื่นๆจากทั่วโลกหน้ากากเสือมักจะน็อคคู่ต่อสู้ด้วยไม้ตาย "ultra tiger drop" ในช่วงแรก ก่อนที่จะคิดท่าไม้ตายใหม่คือ "ultra tiger breaker"

ความสนุกของหน้ากากเสืออยู่ที่การให้ความสำคัญกับเนื้อเรื่องที่กินใจ ไม่น้อยไปกว่าการต่อสู้ที่ดุเดือดบนเวที ในตอนที่หน้ากากเสือไม่ได้ขึ้นปล้ำ นาโอโตะก็จะนำคนดูไปพบกับปัญหาของผู้ด้อยโอกาสในสังคม ทั้งปัญหาของเด็กกำพร้าตอนแล้วตอนเล่า,ปัญหาสารพิษตกค้างจากระเบิดปรมาณู, ปัญหาสารพิษตกค้างในทะเลที่รุนแรงจนไม่สามารถทำประมงได้, ปัญหาโรคภัยไข้เจ็บของผู้ยากไร้ และปัญหาเรื่องสวัสดิการสังคมอีกมากมาย

ตอนจบของหน้ากากเสือภาคการ์ตูนนั้น - หน้ากากเสือแข่งชิงแชมป์มาเรื่อยๆ จนมาถึงรอบชิงซึ่งหน้ากากเสือสามารถชนะฟาวล์คู่ต่อสู้ได้แล้ว แต่เนื่องจากกติกากำหนดว่าแชมป์โลกต้องมาจากการชนะแบบปกติเท่านั้น ทั้งคู่จึงต้องกลับมาปล้ำกันใหม่อีกครั้ง

ในวันที่ปล้ำนัดล้างตา หน้าสนามแข่งรถติดมาก นาโอโตะจึงจอดรถและลงมาเดินแทน ในระหว่างทางนาโอโตะก็เหลือบไปเห็นรถบรรทุกกำลังพุ่งตรงเข้าชนเด็กที่จักรยานล้มอยู่กลางถนน นาโอโตะจึงโดดเข้าไปช่วยแต่ตัวเองกลับโดนชนเข้าอย่างจังเมื่อเห็นว่าตัวเองไม่รอดแน่แล้วจึงแอบเอาหน้ากากเสือโยนทิ้งลงคุน้ำข้างถนนเพื่อไม่ให้ใครรู้ว่าเขาคือหน้ากากเสือ

ทางด้านสนามแข่ง เมื่อหน้ากากเสือไม่ปรากฎตัวคู่ต่อสู้ของเขาจึงได้แชมป์ไปท่ามกลางความงงงันของผู้ชมว่าหน้ากากเสือหายไปไหน เพราะหลังจากนั้นก็ไม่มีใครได้พบกับหน้ากากเสืออีกเลย ที่บ้านชิบิโกะ ทุกคนต่างเศร้าสร้อยกับการจากไปของนาโอโตะ โดยที่รูริโกะนั้นเชื่อว่านาโอโตะคือหน้ากากเสือ ภาพสุดท้ายที่ได้เห็นในหน้าหนังสือการ์ตูนคือภาพของหน้ากากเสือที่ได้เกิดเป็นดวงดาวอยู่บนท้องฟ้า

ส่วนในภาคอนิเมชั่น - จะเป็นตอนที่หน้ากากเสือขึ้นปล้ำกับไทเกอร์เดอะเกรท นักมวยปล้ำที่ฝีมือดีที่สุดของถ้ำเสือ ในระหว่างการแข่งขันหน้ากากเสือโดนเล่นงานนอกติกาอย่างหนักและถึงกับโดยฉีกหน้ากาก ทำให้ทุกคนได้รู้ว่าหน้ากากเสือคือนาโอโตะนั่นเอง และเมื่อไม่สามารถรับมือกับไทเกอร์เดอะเกรทที่เล่นผิดกติกาได้ นาโอโตะจึงต้องหันกลับมาปล้ำแบบผิดกติกาบ้าง และสามารถเอาชนะไทเกอร์เดอะเกรทได้ในที่สุด แต่หลังจากนั้นนาโอโตะรู้สึกละอายกับการกระทำของเขาเกินกว่าจะกลับไปสู้หน้ารูริโกะ และเด็กๆที่บ้านชิบิโกะได้ เขาจึงตัดสินใจเดินทางไปอยู่ต่างประเทศทันทีหลังแข่งเสร็จ โดยทิ้งให้รูริโกะและเด็กๆ นั่งรออย่างไร้จุดหมาย

หน้ากากเสือ ยังมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยอีกเยอะครับ ไว้ว่างๆ จะมาเล่าให้ฟังครับ

ท่าน Wat ครับ ขออีกเรื่องนึงครับ ... คามุย ยอดนินจา ... ชอบมั่กๆ อิอิ รู้อายุกันพอดี