ฝากมาจากคุณโอ เทพมลคลภาพยนตร์นครขอนแก่นเช่นเคยครับ คราวนี้ทีมงานมีคิวงานขึ้นไปฉายโชว์ที่เมืองหลวงพะบางประเทศลาวเป็นงานร่วมฉลองครบรอบ 55 ปี พรรคปฎิวัติประชาชนลาว และเพื่อรำลึกถึงวีรกรรมกอบกู้เอกราชอันยิ่งใหญ่ของท่านไกรสร พรมวิหาร อดีตผู้นำลาว งานนี้ถือเป็นเกียรติอย่างสูงในชีวิตการทำงานของทีมงานเทพมงคล ภาพยนตร์ ขอนแก่น ที่มีโอกาสได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลลาว ร่วมกับกระทรวงแถลงข่าวและวัฒนธรรม ส.ป.ป.ลาว โดยพณ ท่าน"หมุนแก้ว ออละบุน" และมีผู้สนับสนุนรายใหญ่ในการจัดงานครั้งนี้คือบริษัท ลาวเทเลคอม LAO TELECOM ผู้นำระบบมาตรฐาน 3G แห่งประเทศลาว(ถ้าเป็นฝั่งไทยก็ประมาณ AIS นี่แหละ) แต่ที่พิเศษคือเค้าเป็นผู้บุกเบิกระบบ 3G ในลาวมากว่า 2 ปีแล้ว ซึ่งบ้านเรายังไปไม่ถึงไหนกันเลย ตอนนี้คนลาวเค้าโทรศัพท์แบบเห็นหน้ากันในระบบ 3g กันทั่วลาวแล้ว นอกจากนี้ยังให้บริการแบบ Video call และ speed internet ผ่านระบบโทรศัพท์มือถือซึ่งผมบอกได้เลยว่ามาตรฐานดีจริงๆ

เนื่องจากระยะทางจากขอนแก่นมาหลวงพะบางนั้นไกลมากประมาณ 800 km ใช้เวลาเดินทาง 2 วัน และเต็มไปด้วยภูเขาสูงและถนนเชื่อมต่อระหว่างแขวง(จังหวัด)ในลาวสุดแสนจะแคบ

อยากดูครับ

ขออนุญาตปูเสื่อ

แวะทานอาหารเช้าเช้าที่ตัวเมืองวังเวียงครับ ปลานึ่งที่นี่เนื้อนุ่มอร่อยมาก

ภาพต่อมาเป็น ร้านอาหารท่าเรือ,

 รถโดยสารที่วิ่งจากสายเหนือเพื่อจะไปเวียงจันทร์

แล้วก็ร้านค้าครับ ที่นี่ก็น่าอยู่มากครับ สงบดี

ภูเขาหินทั้งนั้น ตอนนี้ไม่รู้เลยว่าประเทศไทยอยู่ทิศไทน............

ได้ไปในที่ที่ไม่เคยไป ได้เห็นในที่ที่ไม่เคยเห็น ทำงานแบบไม่รู้วันรู้คืน......

อากาศตอนนี้หนาวมากกลางวันแท้ๆ 7 เมษายนที่เมืองไทยคงร้อนตับแตกแต่ที่นี่กลับหนาวจับใจ....

จากนี้ไปมองไปทางไหนก็มีแต่ภูเขา

ถ้ารถเสียหรือน้ำมันหมดแถวนี้ก็ไม่อยากนึกสภาพเลย ....

แม้กระนั้นก็ยังมีคนงานของรัฐมาบำรุงทางอยู่ แต่ทางแคบมากๆ ขอบอก...

ซึงจากนี้ไปยังต้องขึ้นเขาผ่านไปยังเมืองกิ่วกะจำ....

บางช่วงขึ้นไปยอดเขาแล้วโค้งข้างหน้าแทบไม่อยากมองเลย เพราะมองลงไปแล้วไม่เห็นอะไรเลย

จากนั้นก็มาถึงเมืองภูคูณ ซึ่งเป็นครึ่งทางพอดีที่จะไปหลวงพะบาง และเติมน้ำมันอีกที ประมาณ 9 แสนกีบ (คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 3600 บาท) ภาษาลาวน้ำมันดีเซล เค้าเรียกว่า กาซวน จำไว้ให้ดีนะครับ ส่วนน้ำมันเบนซินคนลาวเค้าเรียกว่าแอดซัง ............

ที่เมืองนี้จะอยู่บนภูสูงเลยครับ ขนาดสามแยกไปหลวงพระบางและตลาดตัวเมืองยังอยู่บนยอดภูเลยอ่ะ .....

นี่คือหมู่บ้านที่อยู่เรียงรายตามทาง ตลอดแนวเขา ต้องขับอย่างระวังเพราะทางแคบ และอาจมีเด็กน้อยวิ่งตัดหน้ารถ ......

มีป้ายโค้งอันตรายให้แล่นช้า ๆ เตือนเป็นระยะๆ ฉะนั้นต้องระวังกันหน่อย

ถนนก็แคบ เหวก็ลึก ได้แต่นึกถึงพระพุทธ พระธรรมพระสงฆ์ ตลอดทางที่อยู่บนเขา .....

งานนี้วัดใจกันสุดๆ ถ้าพลาดตกเหวก็ไม่รอดแน่ๆ มองลงไปแทบไม่เห็นตีนภูเขา (ในใจ) เมื่อรั้งหนึ่งชีวิตมาถึงขั้นนี้แล้วงานนี้วัดใจกันเลย ไม่ว่ายากแค่ไหนไกลแค่ไหนก็ไม่กลัว ทีมเรามันใจเกินร้อยกันทุกนอยู่ เชื่อมันในตัวเอง ถ้าไม่ลองก็จะไม่รู้ว่ากว่าจะถึงความสำเร็จ เราต้องเอาชนะอุปสรรคให้ได้ .....

ระหว่างทางตามภูเขาบางช่วงที่มีคนอาศัยอยู่เยอะๆ จะมีตลาดขายของป่ากันด้วย  M150 ก็มีขายด้วยนะ ราคาแก้ว(ภาษาลาวเค้าเรียกขวดว่าแก้ว) ละ 4000 กีบ (ประมาณ 16 บาท) .......

เด็กน้อยผู้น่ารักกะตัวอาไรหว่า.....

ในที่สุดก็มาถึงซะทีสำหรับเมืองหลวงพะบาง เมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองมรดกโลก ตัวมืองจริงๆแล้วอยู่กลางหุบเขาพอดี อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลเกือบ 2000 เมตร ต้องนั่งรถข้ามภูเขาลงมาก่อนแล้วจึงจะเห็นตัวเมือง ...

แต่งานเริ่มอีกวันครับ วันนี้ตั้งจอเสร็จก็รีบพักผ่อนเอาแรงทันที .............

ป้ายโฆษณาของการฉายรูปเงา ...........

วันนี้ฉายที่เดิ่นพระธาตุหลวง ใจกลางเมืองหลวงพระบาง ..........

ด้านหลังเดิ่นธาตุหลวง หรือตรงหลังจอหนังนั้นคือ วัดพระธาตุหลวงครับ อันเป็นที่ประดิษฐานพระบรมอัฐิของเจ้าฟ้างุ่ม กษัตริย์เจ้าเมืองผู้ครองนครหลวงพระบางในอดีตกาล ....

และแล้วก็มาถึงเวลาที่ทีมงานรอคอย นั่นก็คือการฉายรูปเงา(หนังกลางแปลง) จอโค้งเรดาร์ 16 เมตร จากทีมงานเทพมงคล ภาพยนตร์ บ้านหนองไผ่ ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ฉายโชว์ที่เมืองหลวงพะบาง เรื่องสบายดีหลวงพะบาง ให้พี่น้องชาวลาวได้ชมกัน .....

และในงานยังมีกิจกรรมหลักจากผู้สนับสนุนคือบริษัท ลาวเทเลคอม มีทั้งของแจกของแถมมากมาย รวมไปถึงการจำหน่ายซิม 3G ในราคาที่ใครๆก็มีใช้ได้ ....

แจกให้สำหรับผู้ที่ใช้ซิม 3 จี ของลาวเทเลคอม ..........

คืนนี้เล่นเอาเดิ่นธาตุหลวงแทบแตก มหาชนหลั่งไหลมาร่วมงานจำนวนมาก เพราะวันนี้มีเซอร์ไพรซ์จากทีมงานลาวเทเลคอมคือ ได้รับเชิญน้องคำลี่ พิลาวงศ์ นางเอกจากหนังเรื่องสบายดีหลวงพระบางมาเป็นเกียรติมอบรางวัลให้กับผู้โชคดีที่ซื้อซิมจากลาวเทเลคอมแล้วโชคดีได้ลุ้นรับของรางวัล ............

คืนนี้มีคนประมาณ 1หมื่นคนมาดูหนัง(เพราะนับจากคูปองชิง
โชคที่ลูกค้ามาหย่อนลงในตู้จับรางวัลของผู้ที่ซื้อสินค้า) คิดในใจเล่นๆว่า ถ้ามาฉายล้อมผ้าค่าปี้(บัตร) คนละ 5000 กีบก็ประมาณ 20 บาทไทย ถ้าจำนวนคนดู 1 มื่นคนคงนับเงินจนตาลายเลยล่ะ...อิอิ ........

รางวัลที่ 1 ลาวเทเลคอมแจกรถวีโก้ ให้ผู้โชคดีครับ แหมดีใจกะผู้โชคดีเค้าจริงๆ ...........

แจกไม่อั้นสำหรับผู้สนับสนุนใจดีของทีมงานเทพมงคล ขอบคุณบริษัทลาวเทเลคอมอีกครั้งเป็นอย่างสูงครับ ......

งานนี้ได้รับเกียรติจากกระทรวงวัฒนธรรมลาวเช่นเคยครับที่ได้ส่งคุณพ่อเฉลียงและคุณแม่ขันธรีย์ นักพากย์เบอร์ 1 จากกระทรวงวัฒนธรรมลาว มาพากย์เสียงหนังให้ฟังสดๆ .......

และการพากย์สดเป็นภาษาลาวและก็ได้รับความสนใจจากพี่น้องชาวลาวเป็นอย่างยิ่ง
นี่แหละเสน่ห์ของหนังกลางแปลง ...............

สบายดีหลวงพะบางถือเป็นหนังที่น่าภูมิใจของพี่น้องชาวลาวเป็นอย่างยิ่ง ทีมงานจากไทยก็ถือเป็นเกียรติอย่างสูงที่ได้รับใช้มิตรรักแฟนภาพยนตร์ชาวลาว ถือเป็นความรู้สึกที่ดีเท่าที่รั้งหนึ่งในชีวิตจะหาได้ เป็นความทรงจำที่ดีครับ

วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะรับคราวหน้าจะเอารูปงานฉายโชว์ที่นครหลวงเวียงจันทร์มาให้ชมครับ (สบายดี)

ยอดเยี่ยมเลยครับ กับการเดินทางของทีมงานมที่ลุยข้ามไปฉายถึงหลวงพระบาง ทีดูในรูปยังเหนื่อยและลุ้นการเดินทางแทนเลย....ขอบคุณที่เบื้องหลังมาให้ชม...