"หนังกลางแปลง"
ความสุขของชาวบ้าน อดีตงดงามที่เลือนหาย จากความทรงจํา
เด็กตัวน้อย ผู้หลงไหล หนัง16มม.ที่มิตร ชัยบัญชา แสดงนํา
วิ่งไล่ตามรถหนังขายยา ที่มาฉายในหมู่บ้าน จึงขอไปสมัครทํางานตั้งแต่เด็ก ยกของในรถฉายหนัง กรอฟิล์ม
ขับรถ ฉายหนัง เป็นโฆษก และฝึกพากย์หนังด้วย ครบเครื่องเรื่องหนัง
สุดท้าย คุณสามารถ เขาเป็นเจ้าของหนังกลางแปลงในนาม "สามารถภาพยนตร์"
คนทางเหนือเรียกหนังสามารถโยงๆ
คุณสามารถ สุดเนตร วัย75ปี
เล่าเรื่องประสบการณ์ ที่รักหนังยิ่งกว่าชีวิต เขาเข้าวงการ หนังขายยาเมื่อกว่า50ปี
ยุคนั้นหนังไทยใช้ฟิล์ม16มม.พากย์สด
เขาเป็นพนักงานบริษัทยาตราหัวสิงห์
หนังขายยานี่เอง ทําให้เขาเดินทางตลอดปีสมัยก่อนมี 72 จังหวัด ทุกที่ใกล้ไกลแค่ไหนบุกป่าบุกเขาไปหมดทุ่มสุดใจด้วยใจรัก
ใช้รถจิ๊บคันใหญ่ตระเวนไปทีไหน
พอโฆษกขึ้นประกาศบนรถว่าคืนนี้มีหนังพระเอก มิตร ชัยบัญชา ชาวบ้านดีใจสนใจกันมาก คืนนี้ได้ดูหนังมิตร ชัยบัญชา แน่นอน ชาวบ้านได้ดูหนังและไปขายขนม ของกิน ด้วยสนุกได้เฮ มีความสุขทั้งครอบครัว.
ในอดีตหนังขายยาได้รับความนิยมสูง ในต่างจังหวัด ทีวียังไปไม่ถึง ล้านนาสมัยนั้นมีอยู่ช่องเดียว
ช่อง8ลําปาง
ตอนเย็นๆเราประกาศว่าจะฉายหนังที่ไหนไม่มีล้อมฝ้านะ ดูฟรีเลย
หัวคํ่าฉายพวกสารคดีก่อนเรียกนํ้าย่อย. พอเสร็จหนึ่งม้วนเรา.
จึงประกาศขายยา พยายามขายให้ครบจํานวน นอกจากเงินเดือนแล้วเรายังได้อีก สิบเปอร์เซ็น บางคนไม่ค่อยซื้อยา เราพูดขายนานเพื่อทํายอดขายให้ถึงเป้า
เลยโดนโห่บ้าง. โดยก้อนหินก้อนดินบ้าง
บางทีเป็นกระป๋องนมใส่โอเลี้ยงกว้างจอหนัง แต่ก็สนุกดี
ปัจจุบันไม่มีหนังขายยาให้เด็กคอยวิ่งตามเช่น คุณสามารถ สุดเนตร คนรักหนัง ด้วยหัวใจเต็มร้อย
เวลาเปลี่ยนผันไป ความเจริญ มาแทน
ความอบอุ่นความรู้สึกดีๆ ของอดีตหายไปหมด
หนังกลางแปลง เป็นเพียงเรื่องเล่า
ไม่ต่างจาก โรงภาพยนตร์ แสตนด์ อโลน ซึ่งไม่มีหวนกลับคืน มีเพียงตํานานเล่าขาน ให้ลูกหลานฟัง
ขอบคุณ นิตยสารล้านนาเชียงใหม่
ขอบคุณ คุณสามารถ สุดเนตร
วิวัย จิตต์แจ้งเสนอเรื่องดีๆ18/12/66