ประธานกรรมการ :ปวีณ เขื่อนแก้ว
เวบมาสเตอร์:อนุกูล วิมูลศักดิ์ 084-819-7374,095-308-6840
= ภายใน24ชั่วโมง , 
= ภายใน 3 วัน 
= ทั่วไป , 
= คลาส2 , 
= คลาส3 ,
(ID:1395) ระบบเสียงในโรงภาพยนตร์ |
ระบบเสียงในโรงภาพยนตร์
เวลาที่เราไปดูหนังในโรงหนัง สังเกตหรือไม่ว่า แต่ละโรงอาจจะฉายหนังด้วยระบบที่แตกต่างกัน และความรู้สึกในการดูก็อาจจะไม่เหมือนกัน สมัยเด็กๆ ถ้าเคยดูหนังกลางแปลงมักจะมีลำโพงอยู่ข้างหน้าสองตัววางข้างจอหนังมักจะเป็นระบบสเตอริโอสองทิศทางแบบลำโพงของวิทยุเทป แต่ปัจจุบันมีระบบเสียงมากมาย เรามาทำความรู้จักระบบเสียงในโรงภาพยนตร์กันดีกว่า
--- Dolby Sterio
มาจาก Dolby Laboratories Inc. เป็นบริษัทที่คิดค้นและพัฒนาระบบเสียงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบเสียงสำหรับภาพยนตร์หรือระบบเสียงสำหรับห้องอัด โดยเขาคิดค้นระบบ Dolby Sterio คือระบบเสียงสำหรับโรงภาพยนตร์ที่จะทำให้คนดูมีความรู้สึกเหมือนได้เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริง และมีอารมณ์ร่วมไปตามที่ผู้สร้างหนังต้องการตำแหน่งของเสียงในระบบ Dolby sterio จะต้องมีทั้งหมด 4 channel คือ left,center,right และ surround
--- DTS
คือระบบเสียง DIGITAL ที่คิดค้น และพัฒนาโดยบริษัท Digital Theatre System มีหลักการทำงานของระบบเป็นดังนี้ คือ ระบบ DTS นี้จะเอา DATA ทั้งหมดอัดลงไปใน CD-ROM แล้วมีตัว TIME CODE เป็นตัวสั่งให้ซีดีรอมทำงาน ทำให้เกิดการซิงค์กัน การทำงานของระบบ DTS มีอยู่ 2 ระบบด้วยกันคือ ระบบ 4 Channel เรียกว่า DTS-S ซึ่งจะเหมือนกับ Dolby sterio และ 6 Channel เรียกว่า DTS-6 เหมือนกับ SRD ที่จะพูดถึงต่อไป
--- SRD
คือระบบเสียง DIGITAL ที่ถูกคิดค้นและถูกพัฒนาโดยบริษัท Dolby Laboratories Inc.ชื่อเต็มคือ DOLBYSTERIO SPRECTARL RECORDING DIGITAL โดยมีหลักการทำงานของระบบเป็นดังนี้ คือเอา DATA ทั้งหมดใส่ลงไปในฟิล์มบริเวณระหว่างรูหนามเตย เมื่อเวลาอ่านข้อมูลก็จะอ่านจากจุดนั้นเลย SRD จะมี 6 CHANNEL คือLEFT,CENTER,RIGHT,LEFT SURROUND,RIGHT SURROUND และ SURBASS ส่วนเครื่องฉายจะให้ลิงค์กันโดยเอาตัว SOUND HEAD ไปใส่ในเครื่องฉายก็จะใช้ได้
--- SDDS
เป็นระบบ DIGITAL ที่ได้ถูกคิดค้นและพัฒนาโดยบริษัท SONY ชือเต็มว่า SONY DYNAMIC DIGITALSOUND วิธีการของ SONY จะคล้ายกับของ SRD คือทุกอย่างจะต้องอยู่ในฟิล์ม แต่มีความละเอียดมากขึ้นระบบ SDDS มีถึง 8 Channel ซึ่งทำให้ยุ่งยากมากกว่า
--- Dolby Sterio
มาจาก Dolby Laboratories Inc. เป็นบริษัทที่คิดค้นและพัฒนาระบบเสียงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบเสียงสำหรับภาพยนตร์หรือระบบเสียงสำหรับห้องอัด โดยเขาคิดค้นระบบ Dolby Sterio คือระบบเสียงสำหรับโรงภาพยนตร์ที่จะทำให้คนดูมีความรู้สึกเหมือนได้เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริง และมีอารมณ์ร่วมไปตามที่ผู้สร้างหนังต้องการตำแหน่งของเสียงในระบบ Dolby sterio จะต้องมีทั้งหมด 4 channel คือ left,center,right และ surround
--- DTS
คือระบบเสียง DIGITAL ที่คิดค้น และพัฒนาโดยบริษัท Digital Theatre System มีหลักการทำงานของระบบเป็นดังนี้ คือ ระบบ DTS นี้จะเอา DATA ทั้งหมดอัดลงไปใน CD-ROM แล้วมีตัว TIME CODE เป็นตัวสั่งให้ซีดีรอมทำงาน ทำให้เกิดการซิงค์กัน การทำงานของระบบ DTS มีอยู่ 2 ระบบด้วยกันคือ ระบบ 4 Channel เรียกว่า DTS-S ซึ่งจะเหมือนกับ Dolby sterio และ 6 Channel เรียกว่า DTS-6 เหมือนกับ SRD ที่จะพูดถึงต่อไป
--- SRD
คือระบบเสียง DIGITAL ที่ถูกคิดค้นและถูกพัฒนาโดยบริษัท Dolby Laboratories Inc.ชื่อเต็มคือ DOLBYSTERIO SPRECTARL RECORDING DIGITAL โดยมีหลักการทำงานของระบบเป็นดังนี้ คือเอา DATA ทั้งหมดใส่ลงไปในฟิล์มบริเวณระหว่างรูหนามเตย เมื่อเวลาอ่านข้อมูลก็จะอ่านจากจุดนั้นเลย SRD จะมี 6 CHANNEL คือLEFT,CENTER,RIGHT,LEFT SURROUND,RIGHT SURROUND และ SURBASS ส่วนเครื่องฉายจะให้ลิงค์กันโดยเอาตัว SOUND HEAD ไปใส่ในเครื่องฉายก็จะใช้ได้
--- SDDS
เป็นระบบ DIGITAL ที่ได้ถูกคิดค้นและพัฒนาโดยบริษัท SONY ชือเต็มว่า SONY DYNAMIC DIGITALSOUND วิธีการของ SONY จะคล้ายกับของ SRD คือทุกอย่างจะต้องอยู่ในฟิล์ม แต่มีความละเอียดมากขึ้นระบบ SDDS มีถึง 8 Channel ซึ่งทำให้ยุ่งยากมากกว่า
--- THX
ทำขึ้นมาเพื่อเป็นการยกระดับคุณภาพของระบบเสียง และการสร้างโรงหนังให้ได้มาตรฐาน เน้นความกระหึ่มเป็นสำคัญ เมื่อเอาระบบเสียงหลายๆ ระบบมารวมกัน ระบบ THX นี้จะทำให้ได้รับอรรถรสในการดูหนังมากขึ้น
--- EGV DIGITAL
ระบบสุดท้ายนี้ทำออกมาใช้เฉพาะโรงหนังในเครือของ EGV เป็นระบบที่คิดขึ้นมาเองโดยทาง EGV
ความเห็น |
[1]
(ID:14000)
ในอนาคต ได้แต่หวังว่า หนังกลางแปลงของพวกเรา จะมีการฉายในระบบนี้บ้างครับ
 |  |
(ID:14001)
หากหนังกลางแปลงมีระบบเสียง เหมือนในระบบโรงภาพยนตร์ งานนี้สนุกแน่ครับ
 | |
(ID:14013)
ต้องยอมรับว่า โรงภาพยนตร์ในเมืองไทย สู้กับต่างชาติได้สบาย โดยเฉพาะระบบเสียง ซี่งหากหนังกลางแปลง มีการนำระบบเสียงในโรงภาพยนตร์มาใช้กันอย่างแพร่หลาย เชื่อว่า น่าจะเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้หนังกลางแปลงกลับมาได้รับความนิยมเร็วขึ้น
(ID:14567)
อยากเห็นหนังกลางแปลง มีระบบเสียงเหมือนในโรงภาพยนตร์
(ID:14604)
Surround Sound System
ระบบเสียงรอบทิศทางซึ่งสามารถถ่ายทอดความสมจริงออกมาได้มากกว่า เป็นสิ่งที่ขาดไปไม่ได้ซะแล้วในภาพยนตร์สมัยนี้ รวมถึง โฮมเทียร์เตอร์ของเราๆท่านๆ แรกๆนั้น ระบบเสียง Surround เปิดตัวด้วย Dolby Prologic ในช่วงที่ VDO Hi-Fi(อย่าอ่านฮิฟินะครับ มุขเก่าๆ) และเลเซอร์ดิสยังเป็นที่นิยม(จำจานดาวเทียมใหญ่ๆที่เราๆท่านๆเอามาดูหนังได้มั้ยครับ นึกละก็ขำขำ ใหญ่เจงงงง) ช่วงนั้น สร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับการชมภาพยนตร์ ได้ดีพอตัว...แต่ยังไม่พอกับความต้องการของ "ขาโจ๋พันธุ์แท้"
จึงนำมาซึ่งการกำเนิด DVD เป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของโลกโฮมเทียร์เตอร์ ด้วยระบบเสียง ดิจิตอลรอบทิศทางสมบูรณ์แบบ...
มีการบันทึกแยกแต่ละแชลแนลอิสระจากกัน และถูกพัฒนาแบบก้าวกระโดด(กระโดดสูงซะด้วย)... โดยเป็นระบบเสียงที่จำลองมาจากโรงหนังอย่างแท้จริงในช่วงแรกมีชื่อว่า AC-3 (คิดว่าใช่นะ) มาหลังๆถึงเรียกกันว่า Dolby Digital มีการแยกเสียงเป็น 5.1 แชลแนล โดยแต่ละช่องสัญญาณ มีการบันทึกมาแบบเต็มความถี่เสียง (full range) ยกเว้น เจ้า .1 ที่บันทึกมาเฉพาะย่านความถี่ต่ำ...(เสียงระเบิด เสียงตด เสียง ตีเหล็ก เตียงขยับ เคาะกระจก เค้าเอาหมด)
ในเวลาต่อมา..(อ่าห้อย อ่าห้อย)
เพื่อไม่ให้เกิดช่องโหว่กับระบบเสียงบางซิสเต็มที่ใช้งานบริเวณกว้างๆ จึงเกิดระบบเสียง 6.1แชลแนล ซึ่งลำโพงกลางหลังนั่นเองที่เพิ่มขึ้นมา....เราเรียกมันว่า Center Back มี ริโอเฟอร์ดินาน จอห์นเทอรี่ ฮูเปีย...เฮ้ยยยย ม่ายช่ายยย
เราเรียกมันว่า Surround Back ...เพื่ออะไรเหรอ เพื่อให้เอฟเฟ๊กซ์เสียงด้านหลังมีความต่อเนื่องชัดเจนมากยิ่งขึ้น และสำหรับในซิสเต็มที่ต้องการความสมบูรณ์แบบมากขึ้นไปอีกก็จะขยายเป็น 7.1 โดยหลังเราก็จะใช้สองตัว เป็น ริโอ คู่ เวสบราวน์ รั่วเป็นแหดักปลา(วาฬ)
เอ๊า ม่ายช่ายยย(รอบสอง)...Surround Back ก้อจะมีสองตัว ดังรูปนะครับเพื่อนๆ....
เจ้า Surround Back มันก็จะทำให้ด้านหลังรวมทั้งหมดเป็น 4 แชลแนล(อะไรกันนักกันหนา) จะขยับจากตำแหน่งเดิมใน แบบ 5.1 มาเข้าหาระนาบตำแหน่งนั่งฟังมากขึ้น สามารถสร้างสนามเสียงที่มีความต่อเนื่องและโอบล้อมด้านหลังได้ดียิ่งขึ้น ( เน้นว่า ในSpace ที่กว้างพอ แต่คงไม่ถึงขนาดสนามบอลนะคร๊าบบบ )
ระบบเสียงเซอร์ราวนด์ต่างๆก็จะมีการเข้ารหัส การแพนเสียงจำนวนบิตเรตแตกต่างกันไป ในระบบเซอร์ราวนด์ใหม่ๆสามารถถอดรหัสออกมาเป็น 5.1 / 6.1 / 7.1 แชลแนล จากสัญญาณเสียงต้นฉบับ 2.0 แชลแนล ซึ่งนับว่า จ๊าบบบบ ทีเดียวใช่มั้ยครับ
เกริ่นมาซะยาว....งั้นเราก็มาเข้าสู่ระบบเสียงเซอร์ราวนด์เก๋ๆ ที่นิยมๆกันในปัจจุบัน(รวมเก๋าๆมาด้วย)
ขอเสริมจากลิงค์ด้านบนละกันนะครับ จะได้ไม่ฉายรอบสอง เหนื่อยผมอีกตะหาก หุหุหุ
(ID:14605)
Dolby Prologic ( ขอรวบ Prologic II, IIx เลยนะครับ เพราะเคยตอบไปละ)
Dolby Prologic II
พัฒนาอีกระดับจาก Prologic เดิม มีความสามารถในการจำลองเสียงสเตริโอให้เป็นระบบเสียงรอบทิศทางแยก5.1แชลแนลอิสระด้วยระบบดิจิทอล ในขณะเดียวกันก็ทำให้การแยกแชลแนลจากระบบดอลบี้เซอร์ราวน์ธรรมดาให้ได้บรรยากาศเหมือน5.1แชลแนลแยกอิสระได้อีกด้วย นอกจากนั้นยังสามารถใช้ได้ทั้งกับเสียง สเตริโอจาก CD /Tape / VHS /CableTV /ดาวเทียม / MP3
มี2แบบ คือ
Dolby Prologic II Movie Mode
Dolby Prologic II Music Mode
Dolby Prologic IIx
* นี่คือพัฒนาการล่าสุดของ readdy ระบบถอดรหัสเสียงในตระกูล Dolby Prologic โดยพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ในการแยกช่องสัญญาณ เพื่อเสริมเขี้ยวเล็บของ Dolby Prologic II เดิม โดย Dolby Prologic IIx สามารถจำลองเสียงสเตริโอ 2.0 ให้เป็นระบบเสียงรอบทิศทาง แยก 6.1 หรือ 7.1 แชลแนลอิสระด้วยระบบดิจิตอล มี Music กับ Movie ตามความเหมาะสม มีใช้ใน AVR รุ่นใหม่ๆ...
พูดง่ายๆ มันเพิ่ม เซอร์ราวน์แบค(ด้านกลางหลัง) ขึ้นมา 1 -2 ตัวครับ แต่ก็ยังคงไว้ซึ้งการโยนเสียงในตำแหน่งต่างๆอย่างแม่นยำ
(ID:14606)
ต่อด้วย Dolby Digital / Dolby Digital EX ( Extended Surround )
เป็นอีกหนึ่งระบบเสียงเซอร์ราวนด์ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใช้ในโรงหนังชั้นดี สำหรับDolby Digital 5.1 นั้น เพื่อนๆคงคุ้นเคยเป้นอย่างดีแล้ว เพราะ DVD ที่เราๆท่านๆซื้อหา นั้น DB 5.1 ค่อนข้างจะเป็นมาตรฐาน แต่ก็มีที่ เป็น Dolby Digital 2.0 ปนๆมาบ้าง ซึ่งก็ต่างกันตรงจำนวนช่องเสียงที่อัดมาไม่เท่ากัน ส่วนใหญ่จะเป็นหนังเก่าๆ
มาพูดถึง Dolby Digital Surround EX ดีกว่า ซึ่งระบบนี้จะให้ Out put สัญญาณ เป็น 6.1 แชลแนล จากต้นฉบับ 5.1 คือ เซอร์ราวนด์ด้านหลัง2 แชลแนล ถูกสร้างเป็น 3 แชลแนลนั่นเอง แต่ถ้าจะให้แฟนเก่าพี่ทัช(นิ๊งค์)จริงๆล่ะก็ ต้นฉบับก็ต้องเป็น
Dolby Digital EX ด้วย ซึ่งไม่ใช่เรื่องไหนอื่นไกล Starwar นั่นเองครับท่าน ลองโลดดดด
เสริมติ่งน๊อยนึง...ที่ว่าเป็นติ่งเพราะ มันเล็กครับ..ซิสเต็มม่า...เล็กแต่ลึก เป็นไงล่ะ เมียหนีซะงั้น......
(ID:14607)
Dolby Headphone
น่าทึ่งครับ เพราะมันมีลำโพงสองรู แต่เค้าว่ามันสร้างเสียงเซอร์ราวนด์ รายล้อมตัวได้แบบอเมซิ่งทีเดียว ผมเองยังไม่เคยฟังนะ เลยไม่รู้จะมาบรรยายยังไง แต่ให้คาดเดา ก็คงจะมาเทียบแบบ ระบบอื่นๆคงไม่ไหว เรียกว่า พอถูไถ ไว้ดูกลางคืน หรือเวลาไม่ต้องการให้เสียงไปรบกวนชาวบ้านตามสมบัติผู้ดี(ที่ผมไม่มีเลยข้อนี้ อิอิ) และที่สำคัญ ต้นฉบับก็ต้องเป็น Dolby Headphone มาด้วยถึงจะ เต็มร้อยครับ
เค้าโม้ไว้ว่า..." แล้วคุณจะประหลาดใจกับเสียงที่ได้ยิน " ...(บรู๊วววววววววววว....) อิอิอิ
(ID:14608)
พระเอกของเรา DTS...( Digital Theatre System ) ขอรวมกะญาติเค้าด้วยนะครับ เยอะเหลือเกิน
ขอร่ายยาวๆถึงความเป็นมาให้ถึงกึ๋น....เพราะกว่าจะไปหามาได้...ตาลายไปเลยครับ...
ขอบคุณ http://www.buycoms.com สำหรับข้อมูลดีๆครับ ไม่ได้เว็บนี้ มือหงิกแน่นอน...
DTS 96/24 : ระบบเสียงแบบ DTS 96/24 ที่ถือเป็นระบบเสียงแบบ 5.1 แชนแนลที่มีการส่งสัญญาณเสียงอย่างเต็มกำลังและมีระบบเสียงที่เซอราวนด์รอบทิศทาง ให้เสียงที่มิติ อีกทั้งระบบเสียงนี้สามารถที่จะให้เสียงที่มีพลังและมีความคมชัดที่ดี เพราะมีคุณภาพเสียงแบบ 96kHz/24 บิต ซึ่งเป็นระบบเสียงคุณภาพสูงและมีอยู่ในอุปกรณ์ราคาแพงๆ ระบบเสียงแบบนี้จะพบได้ในระบบ DVD เหมาะสำหรับระบบโฮมเธียเตอร์ในปัจจุบัน
DTS NEO:6 : แชลแนลหรือมัลติแชลแนลที่ได้โดยไม่สูญเสียความเป็นธรรมชาติของสัญญาณต้นฉบับ NEO 6 Music คือระบบการถอดรหัสเสียงเซอร์ราวนด์ที่ออกแบบมาใช้กับสัญญาณดนตรีโดยเฉพาะที่เค้าอ้างว่าสามารถจำลองสนามเสียงในรูปแบบของเสียงรอบทิศทาง 5 หรือ 6 แชลแนลที่ได้จากต้นฉบับสัญญาณ 2.0 ธรรมดาๆ โดยไม่มีการบิดเบือนหรือทำลายความสมดุลย์ของเสียงที่มาจากต้นฉบับ โดยระบบ DTS NEO:6 นี้จะเป็นการส่งสัญญาณเสียงที่เน้นลำโพงแบบ 2 ช่องสัญญาณเป็นหลัก คือลำโพงทั้งซ้ายและขวา ผสมผสานกับช่องสัญญาณเสียงเซอราวนด์รอบข้างในแบบ 5.1 แชนแนล ทำให้เกิดเสียงที่มีมิติรอบตัวของผู้ฟัง ระบบเสียงนี้สามารถที่จะรับฟังได้จากต้นกำเนิดเสียงอย่างเครื่องเล่นซีดีทั่วไป เทปและอุปกรณ์อื่นๆ ที่หลากหลายรวมทั้งระบบโฮมเธียเตอร์และระบบออดิโอในรถ
DTS 5.1 Discrete :ส่วนระบบ DTS 5.1 Discrete นี้นั้นจะมีการทำงานในแบบ 5.1 แชนแนล คือช่องสัญญาณเสียงที่มาจากด้านซ้าย เซ็นเตอร์ ขวา เซอราวนด์ซ้าย เซอราวนด์ ขวาและซับวูเฟอร์ โดยแต่ละช่องสัญญาณ เสียงจะส่งคลื่นเสียงมายังรอบๆ ตัวผู้ฟัง ซึ่งจะให้เสียงที่เซอราวนด์ โดยระบบเสียงแบบนี้สามารถสร้างความบันเทิงได้จากการฟังเพลงและการชมภาพยนตร์เรื่องโปรด
DTS ES : ระบบเสียงแบบ DTS ES นี้ คงมีหลายคนที่รู้จักค่อนข้างดี ซึ่งในการทำงานนั้นจะคล้ายๆ กับระบบ DTS 5.1 Discrete แต่จะมีการเพิ่มช่องสัญญาณเสียงทางด้านหลังเข้ามาอีกตัวเพื่อมิติของเสียงที่ดียิ่งขึ้น โดยจะผสมผสานกับช่องสัญญาณเสียงจากตัวเซ็นเตอร์ และลำโพงตัวอื่นๆ พูดง่ายๆ ระบบเสียงนี้จะมีการทำงานในแบบ 6.1 แชนแนล ถือเป็นระบบเสียงอีกแบบที่น่าจับตามอง
(ID:14609)
Logic 7
ชื่อเท่ห์มะ...เอกสิทธิ์เทคโนโลยีอันลือชื่อของ Harman เค้าหล่ะ...
ช่วยสร้างสนามเสียง 5.1 / 7.1 ที่มีความต่อเนื่องและเชื่อมต่อของสนามเสียงที่ดีขึ้น มี Cinema และ Music ซึ่งเป็นการแบ่งแยกกระบวนการสร้างเสียงเซอร์ราวนด์ ให้มีความเหมาะสมกับสัญญาณต้นฉบับว่าเป็น ดนตรี หรือซาวน์แทร็คจากหนัง...ปัจจุบัน Logic 7 ได้รับความนิยมใช้ในเครื่องเสียงในบ้าน และขยายไปยังเครื่องเสียงติดรถยนต์ระดับหรู (ถ้าผมจำไม่ผิดจะมี Benz / BMW )
เหล่าสาวก H/K คงทราบดี..แม๊นบ๊ออออออออ.....ฮ่วยยยยย
(ID:14610)
VMAx
อีกความพิเศษที่พบได้ใน AVR ของ Harman (เหมือนมาเป็นหน้าม้าให้ H/K ชอบกล) อันนี้แปลกกว่าชาวบ้านตรงที่ สามารถสร้างสนามเสียงโดยใช้แค่ลำโพงคู่หน้าเท่านั้น..
...มี VMAx Near , VMAx Far แนวเสียงจะเปิดโปร่ง โอบล้อมได้อย่างน่าอึ๊ง ทึ่ง เสียว...เจ้า VMAx นี้จะสร้างเสียงสามมิติมายาแบบ ' phantom speaker ' ที่ตำแหน่งเสมือนมีลำโพงเซ็นเตอร์ และเซอร์ราวนด์
ระบบ VMAx Near หรือ Near Field จะเลือกใช้เมื่อผู้ฟังอยู่ไม่ไกลกว่าระยะ 1.5 เมตร มากกว่านั้นก็เข้าสู่โหมด Far Field ไปเลยครับท่าน...
จะเห็นว่าการทำงานเข้าทาง Dolby Headphone ใช่แล้วครับ AVR ชั้นดี จะสามารถให้เสียง VMAx ผ่านทางหูฟังได้ด้วย
(ID:14611)
Circle Surround II ( CS II)
อาจจะไม่ค่อยเห็นกันบ่อยๆนัก...เป็นเทคโนโลยีการจำลองเสียง เพื่อนพัฒนา ระบบ 6.1 ที่ได้สัญญาณจากต้นฉบับเป็น 2.0 หรือแม้แต่ โมโน...มันพิเศษตรงที่มีวงจรเพิ่มความชัดของเสียงสนทนา ( SRS Dialog ) วงจรเพิ่มเสียงทุ้มให้มีความอิ่ม และ ต่ำลึก...(Tru Bass) ช่วยให้ลำโพงขนาดเล็กมีการตอบสนองเสียงทุ้มได้เต็มอิ่มมากขึ้น...
(ID:14612)
ระบบ THX หรือ เรียกว่ามาตรฐาน THX จะเหมาะกว่าเนอะ...
ถูกพัฒนาขึ้นโดย Lucasfilm ซึ่งมีชื่อย่อมาจากคำว่า Tomlinson Holman's eXperiment ระบบเสียงนี้ส่วนมากเราสามารถที่จะรับฟังได้จากโรงภาพยนตร์โดยทั่วไป ถ้าใครได้ไปชมภาพยนตร์บ่อยๆ ก็คงจะทราบว่าเสียงที่ได้จากระบบนี้มันสุดยอดขนาดไหน การที่ระบบนี้ถูกพัฒนาขึ้นมาก็เพราะว่า เพราะว่าในโรงภาพยนตร์ที่ต่างที่กันนั้น จะมีการจัดวางลำโพงและมีระบบเสียงที่แตกต่างกัน ทำให้เสียงที่ออกมานั้นมีความผิดกันออกไปในแต่ละที่ ดังนั้นจึงได้กำหนดมาตรฐานนี้ขึ้นมาเพื่อให้โรงภาพยนตร์แต่ละแห่งมีระบบเสียงที่เหมือนๆ กัน
นอกจากระบบเสียงนี้จะมีให้ได้ยินกันตาม โรงหนังอย่างที่บอกแล้ว ปัจจุบันได้มีการนำเอาระบบ THX นี้บรรจุเข้าไปในซาวนด์การ์ด ยิ่งซาวนด์การ์ดราคาแพงนั้นสามารถที่จะสังเคราะห์ระบบเสียงคุณภาพ ออกมาได้หลายรูปแบบมากขึ้น รวมทั้งลำโพงบางรุ่นก็ได้พกพาระบบ THX รวมไว้ในตัวด้วย ดังนั้นจึงทำให้ระบบ THX นี้ได้ขยายขอบเขตการใช้งานให้กว้างมากยิ่งขึ้น จนสามารถที่จะสร้างความบันเทิงหรือสรรค์สร้างระบบโฮมเธียเตอร์ภายในบ้านของคุณได้อย่างไม่ยากนัก
ระบบ THX ยังแทรกซึมเข้าไปสู่ระบบอื่นๆ อีกมาก ไม่ว่าจะเป็นระบบเสียงที่ได้จาก DVD โดยสามารถให้ระบบเสียงดิจิตอลทั้งภาพและเสียง ปัจจุบันสามารถพบเห็นแผ่น DVD ที่รองรับระบบ THX มากมาย ระบบเกมก็ยังได้นำเอาระบบเสียง THX มารวมไว้เพื่อความบันเทิงที่มากยิ่งขึ้น ระบบเครื่องเสียงบนรถบางคันก็มีระบบ THX ไว้ใช้กันแล้ว นับเป็นอีกระบบเสียงหนึ่งที่เข้ามาครอบคลุมการดำเนินชีวิตของเรามากขึ้น
(ID:14613)
ที่เหลือ...ซึ่งมีรายละเอียดตามลิ้งค์ด้านบนเรียบร้อยครับ...
ถึงตรงนี้คงต้องบอกว่า เหนื่อยมากกกกกกกกกกก แม่เจ้าพระคุณ อะไรมันจะเยอะแยะขนาดนี้ ขนาดเอาข้อมูลมาจากที่นู่นที่นี่
เล่นซะตาลาย...
1-2 ระบบในนี้ หรือมากกว่านั้น ผมเชื่อว่าเพื่อนๆก็คงใช้อยู่เป็นประจำ
(ID:14614)
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ จาก www.thaidvd.net
(ID:14821)
มีอีกระบบหนึ่งครับ
ระบบ IMAX
โรงภาพยนตร์กรุงศรี ไอแมกซ์(Krungsri IMAX Theater) โรงภาพยนตร์จอยักษ์ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย นำเสนอความบันเทิงเหนือชั้นอีกระดับขั้น ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงของโลกกับระบบ IMAX DMR หรือ Digital re-Mastering Release ซึ่งผู้ชมจะพบทางเลือกใหม่ในการสัมผัสความมหัศจรรย์และความยิ่งใหญ่ของสุดยอดประสบการณ์ ของการชมภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดบนจอยักษ์สูงเท่ากับตึก 8 ชั้น ซึ่งเป็นจอภาพที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ขนาด 20x28 เมตร โดยผ่านขั้นตอนการแปลงระบบฟิลม์จากระบบ 35 มม เป็นรูปแบบ 70 มม. ซึ่ง จะมีความคมชัดสมจริง ที่สามารถเห็นถึงความแตกต่างของภาพที่คมชัด สีสันสดใส มีมิติ และเสียงที่มีพลังมากกว่าการชมภาพยนตร์ที่ฉายด้วยระบบฟิล์มปกติ พร้อมเสริมด้วยระบบลำโพง 6 ช่อง ที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษซึ่งประกอบด้วยตัวกระจายเสียง 44 ตัว ที่ให้เสียงในระบบดิจิตอลรอบทิศทาง 12,000 วัตต์ นอกจากนี้ ภาพที่ปรากฏมิใช่เป็นเพียงภาพจากการมองเห็น แต่สามารถสัมผัสความรู้สึกเสมือนเป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์ในภาพยนตร์ เพื่อเป็นที่สุดของประสบการณ์ แปลกใหม่ของการชมภาพยนตร์ที่ได้อรรถรสมากขึ้น และแตกต่างจากการชมในโรงภาพยนตร์ทั่วไปหลายเท่านัก ที่จะทำให้คุณรู้สึกแตกต่างจากการชมในโรงภาพยนตร์ทั่วไป ณ โรงภาพยนตร์กรุงศรี ไอแมกซ์ ชั้น 5 พารากอน ซีนีเพล็กซ์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น www.imaxthai.com
 จาก .. บัญชาภาพยนตร์ 21 |
เลือกหน้า
[1]
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 16
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 16
กลับขึ้นข้างบน / กลับหน้าแรก
ถูกเปิด: ถูกคลิ๊กแล้ว: 116949376 ตอนนี้มีผู้เข้าชม : 1 ล่าสุด :Stanley , RobertMIGH , ProlBlask , Robbsf , Jamesfap , LavillKer , Maciedetpailt , BobbyHOm , Sallycgriet , CarolyncJuh ,