ความเห็น |
นันทาบอกพร้อมชี้ไปที่ผนังด้านในตัวอาคารในเขตอันตรายห้ามเข้า
มีซากโครงหลังคาห้อยระโยงระยางลึกเข้าไปราว 10 เมตร
ปรากฏภาพปูนปั้นรูปหน้ากาก 2 ชิ้น กำลังยิ้มและร้องไห้อยู่บนผนังอิฐมอญ
(เจ๊ตุ๊กจำได้ว่าอยู่ตรงหัวมุม เหนือบันไดที่ต้องเดินขึ้นเอง
คือเมื่อหันหน้าเข้าโรงภาพยนตร์ บันไดเลื่อนจะอยู่ทางซ้ายมือ ส่วนบันไดที่ต้องเดินขึ้นเองจะอยู่ทางขวามือ)
"หน้ากากนี้คือสัญลักษณ์ของโลกมายา
เป็นสัญลักษณ์ของการแสดงที่ต้องมีใบหน้ายิ้มแย้มและหม่นเศร้า"
นันทาจ้องมองไปยังสิ่งสุดท้ายที่เหลืออยู่ด้วยสายตามุ่งมั่นแน่วแน่
เธอบอกด้วยเสียงเข้มแข็งว่า ตอนนี้ต้องมองไปในอนาคต
โรงหนังสยามเป็นสิ่งที่สูญเสียไปแล้ว
แต่ยังมีโรงหนังเก่าแก่อีก 2 แห่งต้องดูแล
นั่นคือ โรงหนังลิโด ที่ยังคงเอกลักษณ์เรียบง่ายเช่นเดียวกับโรงหนังสยาม
แตกต่างจาก โรงหนังสกาลา ที่จะดูหรูหรากว่า
ด้วยการออกแบบที่ผสมผสานวัฒนธรรมตะวันตกกับตะวันออกเข้าด้วยกัน
"อยากให้ประชาชนช่วยกันมาอุดหนุนและให้กำลังใจ มาร่วมฟื้นฟูสยามสแควร์ให้กลับคืนมาอีกครั้ง
เราจะนำภาพยนตร์ดี ๆ มีคุณภาพมาฉาย"...นันทาบอก
ระหว่างนี้มีชายอายุประมาณ 50 ปี เดินเข้ามาทักทายพร้อมโชว์ตั๋วหนังโรงภาพยนตร์สกาลา 2 ใบ
เอ่ยทัก "วันนี้ตั้งใจมาอุดหนุน ชอบมาดูหนังที่นี่ตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว"
ทำเอาเจ้าของโรงหนังยิ้มแก้มปริ
ตลอดเส้นทางจากโรงหนังสยามผ่านลิโดมาถึงสกาลา
ภาพผู้คนมากมายที่กลับมาเดินบนถนนสายบันเทิงเก่าแก่เส้นนี้อีกครั้ง
เป็นการสร้างกำลังใจให้แก่ผู้ที่ต้องอยู่ต่อสู้และฟื้นฟูสถานที่แห่งนี้ได้ไม่น้อย.
"คุณกฤษณะ ไชยรัตน์"
กับ
"คุณนันทา ตันสัจจา"
![]() | ![]() |
เอ๊ !!!!
เสียดายครับ
เนื่องจากภาพและข้อมูล มีลิขสิทธิ์อยู่ค่ะ
จึงขอเชิญให้เข้าไปที่
www.pantip.com/cafe/food/topic/D9319652/D9319652.html
หากท่านเข้าไปไม่ได้ ให้ท่านเข้าไปที่ www.google.com
แล้วพิมพ์คำว่า ภายในโรงหนังสยาม
แล้วท่านจะพบภาพและข้อมูลค่ะ.