น้อยไจยาหนังไทยปี2509
นําแสดงโดย "ไชยา สุริยัน"
"เพชรา เชาว์ราชฎร์"
ศิลปวัฒนธรรมร่วมกับเวปพีเพิลซีนนําเสนอภาพยนตร์ หวานซึ้ง ฉํ่าชื่นแช่มช้อย น้อยไจยา
อดีตเคยเป็นละครวิทยุฮิตติดอันดับ1.ของคณะแก้วฟ้า นํามาสร้างเป็นภาพยนตร์16มม. สีสดใส
ไชยา สุริยัน นักแสดงที่มีความสามารถสูง มีเสน่ห์ที่ดวงตาหวานเจ้าชู้ โดยเฉพาะหนังชีวิตรัก
เค้าแสดงออกทางสีหน้าและแววตาได้อารมณ์ จึงถูกเลือกให้มา รับบท น้อยไจยา ไชยา สุริยัน เคยได้รับรางวัลตุ๊กตาทอง สามปีซ้อน
ไพรัช กสิวัฒน ์อํานวยการสร้าง อัตถ์ พึ่งประยูร ดําเนินงาน. ดอกดิน กัญญามาลย์
กํากับการแสดง
น้อยไจยาบทประพันธ์แต่งโดยท้าวสุนทรพจนกิจ ตามการรับสั่งของพระราชชายาเจ้าดารารัศมีทํานอง ละครซอ ล่องน่าน
ใช้แสดงการฟ้อนแสดงละครจบลงด้วยความประทับใจ แว่นแก้ว ได้แต่งงานกับน้อยไจยา มีความสุข ในยุคโบราณ จนนํามาสู่ภาพยนตร์ในปี 2509
หนังดัดแปลงเป็นโศกนาฎกรรมตอนจบ
ในภาพยนตร์เล่าเรื่องความรักต้องห้าม ของสาวสวย แว่นแก้ว สตรีผู้สูงศักดิ์ พบรักกับ
น้อยไจยาหนุ่มรูปงาม คนจน ทีมีหัวใจศิลปินชอบสะล้อซอซึง เค้าร้องบรรเลงเพลง ไพเราะมาก.
เช่นบทเพลงว่า มวลดอกไม้ มีเสน่ห์ที่เกสร หมู่ภมรซอนเซาะสู่ คู่ภิรมย์ หอมเอยช่างหอมหวน เย้ายวน ให้ชวนชม
คนจะงาม ศักดิ์ศรีและความซื่อตรง รักมั่นคง ความรักเหนืออื่นยิ่งสิ่งใด. ไม่ผัน ไม่แปร ความรักที่แน่แก่ใจ ไม่มีรักใด ดังรักของน้อยไจยา.
ในภาพยนตร์เสียงร้อง ของ ครูสุเทพ วงศ์กําแหง ทํานองเพลงพื้นเมืองทางเหนือ ประพันธ์โดย ครูแก้วอัจฉริยะกุล ชาวเหนือ ถ้าสึกจากเณร เรียกว่า น้อย สึกจากพระ เรียกว่า หนาน
ครั้งหนึ่งผู้เขียนเคยได้พูดคุยกับคุณอัตถ์พึ่งประยูร ทีมงานสร้างหนัง น้อยไจยา ท่านบอกกับผู้เขียนว่า วัฒนภาพยนตร์ ได้ยกทีม ขึ้นไปถ่ายทํา
ที่จ.เชียงใหม่ในหนังเห็น พระธาตุดอยสุเทพ สวยงามนํ้าตกห้วยแก้ว
หนังมีฉากเด่นตอนวันสงกรานต์ยิ่งใหญ่มากเพชรา เชาว์ราชฎร์ มีบทเป็นนางสงกรานต์ ขึ้นนั่งเสลียงเข้าขบวนพิธีเป็นที่ฮือฮามาก ประขาชนเข้าล้อมเต็มหมดเป็นที่ประทับใจแฟนๆโดยเฉพาะภาพฟ้อนรําจากสาวงามชาวเชียงใหม่ คนสวยๆในหนังเรื่องนี้ถือเป็นไฮไลย์ ดูหนังเรื่องนี้ บทเศร้า
คนดูต้องเสียนํ้าตา พระเอกไชยา สุริยันแสดงดีมากเค้าใช้สีหน้าและแววตา สกดคนดูทั้งโรงหนัง เงียบซึมจนต้องเตรียมผ้าเช็ดหน้าซับตา อินไปกับบทตอนแว็นแก้ว ถูกพ่อแม่บังคับให้แต่งงานกับ ส่างนันดา พ่อค้าชาวพม่า ทีรํ่ารวย แห่งวังสิงห์คํา.
พอพระเอกรู้ข่าวนี้เสียใจนัดนางเอก ปรับความเข้าใจที่นํ้าตกห้วยแก้ว น้อยไชยาพูดว่า "ดอกแก้วนี้หนอจะไปเป็นของคนอื่นเสียแล้ว" แว่นแก้วตอบว่า "แม้เวลาลมพัดดอกแก้วพัดไหว แต่กิ่งหาหาได้ไหวตาม แว่นแก้วเงาใสเช่นเดิม"
ช่วงเวลานั้นส่างนันดาแอบมาเห็น จึงดักรอแว่นแก้ว ถามว่าไปไหนมาเธอตอบว่า ไปคุ้มหลวงริมนํ้าแม่ปิง นันตาหาว่า คบชู้ในภาพยนตร์จบอย่างสะเทือนใจ นันตาเก็บความแค้นไปดักดูที่ห้วยแก้วทันใดนั้น ผู้ชมช็อกตกใจเสียงปืนดังสนั่น โป้ง โป้งสะท้อนตามหน้าผา ร่างของน้อยใจยาทรุดลงขาดใจเสียชีวิตเหลือไว้เป็นตํานานรักแท้ชั่วนิรันดร์
เครดิต ขอบคุณ เจ้าของภาพ และ บ.โฆษาณาอัตถ์ พึ่งประยูร
วิวัย จิตต์แจ้ง เขียนบทความ