เริ่มมีการออกข่าวประชาสัมพันธ์เกี่ยวหนังภาคต่อ ของคนเหล็กภาคที่ .5 ออกมาเป็นระยะ.โดยมีข่าวเรื่องของการดำเนินการสร้างและเริ่มจะทำการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว.โดย..เดวิด เอลลิส ผู้อำนวยการสร้างของหนังเรื่องนี้ซื้อลิขสิทธิ์ต่อมาจากน้องสาวของเขา เมแกน คลาร์ก ผู้อำยวยการสร้าง Zero Dark Thirty และ Foxcatcher
ในปี 2013 ด้วยเงิน 15 ล้านเหรียญ
เพื่อวางแผนอันใหญ่โตที่จะคืนชีพให้คนเหล็กทั้งในรูปแบบของภาพยนตร์,
ซีรี่ส์ทางโทรทัศน์ และวิดีโอเกม
และสิ่งแรกที่เขาทำหลังจากได้ลิขสิทธิ์มาก็คือนำชวาร์เซเน็กเกอร์กลับมา “ในความคิดของเรา จะสร้างหนังฉบับนี้ขึ้นมาต้องมีอาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ ด้วย” ซึ่งอาร์โนลด์ก็คาดไว้แล้ว “ผม
นึกไว้อยู่แล้วว่าจะต้องมีหนัง Terminator ภาคใหม่สร้าง
ผมคงมักต้องผ่านประสบการณ์เจ็บปวดกันก่อน ในการสร้างภาคต่อหรืออะไรสักอย่าง
โดยไม่มีผม“..



       แต่ผู้กำกับอลัน เทย์เลอร์ (Thor: The Dark World) คิดว่าอาร์โนลด์อาจไม่พอที่จะดึงผู้ชมรุ่นใหม่ จึงเลือกเอมิเลีย คลาร์ก จาก Games of Thrones
มาร่วมรับบทเด่นเป็นแซร่าห์ คอนเนอร์ ด้วย
และยังให้ใจกลางทางอารมณ์ของเรื่องราวมีความรักระหว่างไคย์ล รีส กับ
แซร่าห์ ซึ่งนำพาไปสู่การกำเนิดของจอห์น คอนเนอร์ ผู้นำฝ่ายต่อต้านจักรกล....

         

หนังยังมีการปรับบทใหม่ในแง่ของสกายเน็ตให้เข้ากับยุคขึ้น
ให้การโจมตีของสกายเน็ตเป็นในแง่การก่อการร้ายทางไซเบอร์
ต่างจากต้นฉบับเพราะในยุค 80 นั้น ผู้คนกลัวนิวเคลียร์ล้างโลกกัน “สกา
ยเน็ตไม่ต้องพังประตูเข้ามารุกรานเราแล้ว เพราะเราไปเข้าแถวกันหน้าร้าน
Apple เพื่อเชื้อเชิญให้มา เรายอมให้ความเป็นส่วนตัวกันอยู่บ่อยๆ” เอลลิสันบอก

องค์ประกอบสำคัญที่หนัง Terminator
จะขาดไม่ได้ก็คือการใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยกับฉากอันยิ่งใหญ่อลังการมาสร้าง
ความตื่นตาตื่นใจ ซึ่งในแง่ของฉากแอ็คชัน นักแสดงยอมรับในบทความว่ายุ่งยาก
ซับซ้อน เหนื่อย และเสี่ยงมากๆ
ขณะที่หนึ่งในฉากเทคนิคพิเศษที่ผู้สร้างภูมิใจมากๆ ก็คือการสร้างตัวละคร
T-800 ของอาร์โนลด์ขึ้นมาใหม่ให้เหมือนในภาคแรกตอนที่เขาอายุ 36
ซึ่งทีมเทคนิคพิเศษสร้างสิ่งที่เรียกว่า “synthespian” หรือ “นักแสดงสังเคราะห์”
(อีกคำที่ใช้กันก็คือ virtual actor หรือ “นักแสดงเสมือนจริง”)
โดยการใช้ร่างนักแสดงตัวแทน
ผสมกับการสแกนใบหน้าของชวาร์เซเน็กเกอร์จากหนังเรื่องแรกของเขา
รวมกับใบหน้าปัจจุบันตอนนี้ ผลที่ออกมาก็คือได้ใบหน้าของ Terminator ในปี 1984 “มันคือขั้นเทพของเทคนิคพิเศษด้านภาพ เราสร้างมนุษย์ที่เดินและหายใจได้ที่ไม่มีอยู่จริงในโลก” เอลลิสันบอก

อีกความยอดเยี่ยมด้านเทคนิคพิเศษที่ผู้สร้างภูมิใจนำเสนอก็คือ
การสร้างตัวละครผู้ร้ายที่ยังไม่เผยออกมาตอนนี้
เป็นตัวละครครึ่งมนุษย์ครึ่งจักรกล ที่พวกเขาเชื่อว่าจะเปลี่ยนโฉมหน้าวงการ
“ส่วนหนึ่งของความท้าทายก็คือทำให้ผู้ชมทึ่งในสิ่งที่ยังไม่เคย
เห็นมาก่อน
มีองค์ประกอบหนึ่งของตัวร้ายหลักของเราที่ทำให้คนทำงานเทคนิคพิเศษอันปราด
เปรื่องต้องเครียดกันเลย ผมคิดว่าเป็นลางที่ดี” เทย์เลอร์บอก...

แล้วชวาร์เซเน็กเกอร์มั่นใจกับหนังแค่ไหน “เมื่อมองย้อนดูใน
ประวัติศาสตร์ เมื่อไหร่ที่หนังสร้างออกมาดี มันจะยิ่งใหญ่มาก
ถ้าหนังสร้างมาดี ถ้ามีตัวละครที่ยอดเยี่ยม ถ้าแสดงออกมาดี
ผู้ชมก็จะออกมาดูกัน ง่ายๆ แค่นั้นเอง“

เราคงต้องรอดูเมื่อหนังออกฉายกรกฎาคม 2015 ครับ..

ขอบคุณข้อมูลจากเวย jediyuth และเวบ Entertaunment Weekly ครับสำหรับข้อมูลและรูปประกอบ.