แต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่สามารถจะแก้ไขหรือไถ่ถอนได้เลย

เป็นหนังที่หนักหน่วงมากๆในทางอารมณ์ แต่ก็ลุ่มลึกและละเมียดละไม และรองรับไว้ด้วยความจริง
ส่วนที่น่าประทับใจมากๆ-ไม่ใช่รถไฟไทยที่ใช้ประกอบฉากเพื่อสร้างบรรยากาศ ย้อนยุค แต่ได้แก่แอ็คติ้งในการสวมบทบาทเป็นอีริค โลแมกซ์ของโคลิน เฟิร์ธที่ทำให้ผู้ชมเชื่อในตัวละครโดยปราศจากข้อกังขา และสมควรอย่างยิ่งแก่การสแตนดิ้งโอเวชั่นอย่างยาวนาน ประโยคหนึ่งที่ อีริค โลแมกซ์ พูดในหนังThe Railway Man ก็คือ" ทางรถไฟสายนี้ สร้างไม่ได้ด้วยเครื่องจักร
หรือแม้แต่แรงงานราคาถูก สิ่งเดียวที่จะใช้สร้างทางรถไฟเส้นทางนี้ได้ คือใช้แรงงานของทาสหรือเชลยสงครามที่ไม่รู้ว่าตัวเองจะมีชีวิตอยู่จนถึงวัน พรุ่งนี้หรือไม่เท่านั้น "

ภาพๆหนึ่งที่หาดูยาก ภาพถ่ายของ
อีริค โลแมกซ์ ตัวจริง ที่เดินทางมายัง
กองถ่าย The Railway Man ที่จ.กาญจนบุรี
และ โลแมกซ์ ก็ได้เสียชีวิตหลังจากนั้นได้ไม่นาน
ประโยคประโยคหนึ่งที่เขาได้พูดกับ ผู้สร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ในวันที่เดินทางมาก็คือ
" ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเคยตายไปแล้ว 2 ครั้ง
ครั้งแรกคือตอนที่ถูกทหารญี่ปุ่น จับไปเป็นเชลย ครั้งที่ 2 คือตอนที่ ต้องเดินทางกลับมา
เพื่อแก้แค้น .... ผมไม่เคยคิดว่าจะมีใครนำสิ่งที่ผมเขียนมาสร้างเป็นหนัง เพราะคนส่วนใหญ่อาจจะไม่ได้อยากรู้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นจริง ๆ คืออะไร มากไปกว่าความจริงที่ถูกปรุงแต่งออกมาแล้ว " -อีริค โลแมกซ์