Mobile Version / สำหรับโทรศัพท์มือถือ ยินดีต้อนรับท่านผู้มาเยือน www.peoplecine.com ท่านยังไม่ได้ log in นะครับ เข้าใช้งานระบบ / สมัครสมาชิก/ ลืมรหัสผ่าน

ประธานกรรมการ :ปวีณ เขื่อนแก้ว
เวบมาสเตอร์:อนุกูล วิมูลศักดิ์ 084-819-7374,095-308-6840


= ภายใน24ชั่วโมง , = ภายใน 3 วัน = ทั่วไป , = คลาส2 , = คลาส3 ,
รูป
มุมสร้างฝันของคนรักหนังเจ้าของ อ่าน ตอบ ผู้ตอบหลังสุด
-สร้างฝันกับหนังกลางแปลงให้เป็นจริงของเมืองนอก29082.. 22/1/2556 18:38
-ขอความรู้สึกคนบ้าหนังกลางแปลงครับใครเหมือนผมบ้าง1290234.. 18/12/2555 0:36
-หนังกลางแปลงใช้เวลาถอนทุนคืน ต้องรับงานประมาณกี่งานครับ923825.. 13/11/2555 12:21
-ขอสอบถามผู้รู้หน่อยครับ52273.. 24/8/2555 8:42
-จะทำหน่วยหนังสักหน่วย งบ 50000 จะได้มั้ย636214.. 31/7/2555 19:39
-ความฝันที่ขาดไม่ได้958724.. 10/7/2555 17:22
-รับกี่งานถึงจะได้ทุนคืน49696.. 10/7/2555 14:49
-ผมหยากดูหนังกลางแปลงทำงานอยู่สสระบุรีไม่ได้ดูหนังกลางแปลงนานแล้วมีชวนหน่อยครับ803319.. 7/9/2554 17:22
-1.5000 พอไหมครับ 130569.. 31/7/2554 13:58
-ผมทำอะไรลงไปตั้งแต่มาเล่นหนังกลางแปลง 1 ปี900439.. 7/7/2554 21:42
-สอบถามพี่ๆเพื่อนๆไม่นิดหน่อยอิอิอิ735450.. 5/6/2554 16:38
-อยากทำหนังจอสัก 18เมตรสักหน่วย ไม่รวมระบบเสียง กับรถงบสักเท่ไร673216.. 2/6/2554 19:25
-ถ้าทำหน่วยหนังขึ้นหนึ่งหนว่ยเอาแบบสั่งใหม่หมดจะราคาประมานไหนครับ697323.. 10/2/2554 20:17
-งบ500000ได้ชุดใหญ่สุดเท่าไหร่ครับ49658.. 8/2/2554 17:50
-โรงเรียนหนังกลางแปลง629422.. 2/9/2553 15:54
-งบเบื้องต้นสำหรับอุปกรณ์หนังกลางแปลงและปัญหาลิขสิทธิ์1303022.. 31/8/2553 22:16
เลือกหน้า
[<<] [5]
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 75

(ID:9747) หนังกลางแปลงใช้เวลาถอนทุนคืน ต้องรับงานประมาณกี่งานครับ


ขอถามเป็นความรู้หน่อยนะครับ

1.  หนังกลางแปลงใช้เวลาถอนทุนคืนประมาณกี่งานครับ  หากลงทุนประมาณ 2 -3 แสนบาท

2.  หนังเราไม่มีเลยในหน่วย  เช่าเค้าตลอด  จะมีใครเขาปล่อยให้เช่า แบบนี้  ตลอดไปไหมครับ

     แบบว่า  เค้ากลัวจะทำให้ฟิล์มหนังเขาชำรุด  หรือเปล่า  ประมาณนี้ครับ

3.  จากข้อที่ 2  หากเราเป็นหน่วยหนังเล็กๆ  แต่อยากจะฉายหนังฟอร์มยักษ์  หนังใหม่  หนังใหญ่ ชน โรง 

      ประมาณนี้   เอามาฉายให้ชาวบ้านเค้าดู     เค้าจะยอมปล่อยฟิล์มไหมครับ   

 

 

 

ขอบคุณครับ 

 



ความเห็น

[1] [2]


(ID:103934)

ไม่มีใครตอบ W/M เองละกัน ว่ากันตามตรงๆ ครับ

ข้อ 1 ภาษิตที่ว่า "ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ" ยังคงใช้ได้อยู่เสมอนะครับ เพราะฉะนั้นการจะถอนทุนคืนจึงเป็นไปได้ยาก เพราะมีแต่ "เงินออก" มากกว่า "เงินเข้า"

ข้อ 2 และ 3 ขอตอบรวมกัน โซนภาคกลางและภาคเหนือ ถูกผูกขาดอยู่แล้วครับ เพราะฉะนั้น ได้อย่างต้องเสียอย่าง แต่อย่างว่ามนุษย์เรามักจะชอบฝืน "กฎ" ทีนี้ก็ต้องเสี่ยงดวงกันเอาเอง ส่วนในอนาคต ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าต่อไปจะเป็นอย่างไร

ส่วนเรื่องการฉายหนังใหม่ชนโรง หาเจ้าภาพที่เงินถึงน้อยมากครับ ข้อสำคัญ แม้จะมีเงินถึง แต่ถ้าสายหนังเค้ายังไม่ปล่อยฟิล์มออกมา เจอตรงนี้ก็ต้องจบละครับ...

ตอนแรกก็เคยคิดจะทำ แต่สถานการณ์ของ "หนังกลางแปลง" ณ ตอนนี้ ก็อย่างที่รู้ๆ กัน เพราะสังเกตเห็นความเลือนลาง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 แล้ว บังเอิญว่า ตอนนั้นเกิดไอเดียขึ้นมา ก็เลยเริ่มปรับเปลี่ยน ปรับตัวไปเรื่อย และต่อยอดออกมาจนถึงทุกวันนี้




(ID:103946)

ขอบคุณมากครับ  พี่ อนุกุล

 

สรุปแล้ว   การทำหนังกลางแปลงเนี่ย  หากจะต้องการทำแบบเป็นอาชีพ  คงยากในการเก็บรายได้เป็นกอบเป็นกำ  ใช่ไหมครับ  แต่ที่เห็นทำอยู่ทุกวันนี้  ทำเพราะใจรัก  แบบว่า  เงินไม่ได้ไม่เป็นไร  แต่ใจมันรักมันมีความสุขกับสิ่งนี้  ใชไหมครับ

 

ผมอีกคนหนึ่งล่ะครับ   ขอเป็นกำลังใจ  สำหรับเพื่อนๆ  พี่ๆ  เจ้าของหน่วยหนังทุกท่านจงสู้ต่อไป สู้ๆ  ด้วยนะครับ

 




(ID:104068)
เรื่องทำหนังคิดแบบนักธุรกิจยากมาก เหมือนซื้อที่นาแหละครับ บางปีข้าวราคาดีได้เงินมาก บางปีราคาตกได้เงินน้อย บางปีน้ำท่วมขาดทุน  ถึงจะขาดทุนอย่างไรคนก็ยังทำนาต่อไป  ปีต่อไปก็ทำใหม่ลุ้นกันใหม่ครับ  



(ID:104088)

....คิดเหมือนกันกับผมเลยครับพี่นัด....สวดยอดครับผม




(ID:104139)

ที่คุณ นุ ว่ามามันก็ถูกครับ แต่ที่ทุกท่านทำกันอยู่ในขณะนี้นั้น ทำเพราะใจรักครับ ถ้าไม่มีใจ หวังแต่จะค้ากำไร ทำไม่ได้หรอกครับ

ชอบคำเปรียบเปรือย ของคุณนัดจัง ปรบมือให้ครับ




(ID:104293)
ด้วยใจครับ เห็นคนมาดูเย๊อะๆหัวเราะสนุกกับหนังที่เราฉายก็มีความสุขแล้วครับ บ่อยครั้งฉายเสร็จกลับบ้านเหลือตังค์กลับบ้านพ่อค่าน้ำมันรถ หรือก็ควักอีกต่างหาก



(ID:104368)

คืนทุนกี่ปีคงไม่มีใครตอบได้ครับ เพราะทําหนังมันคงเหมือน

การซื้อสินทรัพย์อะไรสักอย่าง ที่มันสามารถงอกเงยได้

โดยการรับงานแล้วมีส่วนที่เหลือเป็นกําไร มีการซ่อมบํารุง

หรือการตกแต่งเพิ่มเติมบ้างเป็นระยะ การลงทุนก็จะมีเรื่อย

ส่วนตัวคิดว่าเป็นเงินหมุนมากกว่า แต่เป็นอุปกรณ์ชุดฉาย

ไม่ใช่เงิน ส่วนตัวผมทําหนังเพื่อให้หายอยากและอยากเก็บ

ความทรงจําเวลาฉายหนัง คนดูมีความสุข เห็นเด็กๆลุ้น เวลา

มีฉากตื่นเต้น เท่านี้ความสุขของผมก็เต็มเปี่ยมแล้วครับ อ้อ

ทําหนังทุกวันนี้ เผื่อทําใจด้วยครับ ด้วยเทคโนโลยีที่เปลี่ยน

แปลงไป ความสะดวกในการดูหนังง่ายขึ้น หนังกลางแปลง

ความนิยม ยังมี แต่อาจลดน้อยลงไปบ้างตามแต่ท้องที่ ทํา

แล้วมีความสุข ไม่ลําบากครอบครัว ก็ทําไปเถอะครับ คืนทุน

กี่ปี คําถามนี้ คําตอบหายากมากครับ




(ID:110991)

เราต้องดูพื้นที่ๆเราอยู่ด้วยถ้าเขตภาคเหนือไม่ต้องทำหน่วยใหญ่หรอกนะ ปานกลางก็ได้ ขอให้แสงดีเสียงดีก็มีงานได้ เมื่อก่อนอาตมาก็มีงานมาเรื่อยๆ แต่โดนหลอกเอาชุดฉายไปทั้งชุดก็เลยไม่มีหน่วยฉายแต่เวลามีงานก็จะให้ หน่วยภาคิณ ไปแทนตลอด ส่วนทางเชียงราย พะเยา ก็ส่งงานให้ลุงทัศน์ไป ส่วนหนังก็เช่าที่ ดนัย จ.อุตรดิตถ์




(ID:111034)
ค่อยเป็นค่อยไปดีกว่าครับ อย่าให้ตัวเองเหนื่อยมาก คนรอบข้างไม่เดือดร้อน  มีความสุขกับส่ิงที่รัก อาจไม่สมหวังในด้านธุรกิจ ครับ 



(ID:111124)

 

ขอแจมด้วยคนครับ เพิ่งเห็นกระทู้

 

ผมเองก็ลงทุนไปหลายบาทกับการทำหน่วยที่ยังไม่เสร็จครับ

โดยที่ไม่ได้เอาผลกำไรเป็นที่ตั้งแต่เป็นการทำเพื่อสนองความอยากในตัวเอง

 

ถ้าจะมองในมุมของการทำธุรกิจ เราต้องมีวัตถุดิบครับ 

สมมุติว่าเราเป็นโรงงานผลิตน้ำให้คนดูละกันครับ

 

อย่าลืมว่าน้ำที่เราใช้

 

เราเป็นปลายน้ำครับ บางที่ก็เริ่มเน่าด้วยซ้ำ

 

ต้นน้ำเขาเก็บเกี่ยวกันมาหมดแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นโรงภาพยนตร์ แผ่น เคเบิล หรืออื่นๆ

รวมถึงต้นน้ำในป่าดงดิบ เช่น โหลดบิท HD แผ่นผี

 

ดังนั้นหากเรายังต้องใช้น้ำในธุรกิจนี้ที่ผ่านมาตลอดสายอย่างทุกวันนี้

ก็ต้องยอมรับในรสชาติและความขมขื่นครับ

และที่สำคัญคือความต้องการของผู้บริโภคว่าเขาอยากจะดื่มน้ำรสชาติแบบนี้หรือไม่ครับ

 

นอกเสียจากว่าเราพยายามไปหาต้นน้ำ สายอื่นๆที่เขายังหากันไม่เจอดีกว่าครับ

 

 

ปล. มีแนวโน้มว่าน้ำจะหมดเขื่อนอีกไม่กี่ปีนี้แล้วครับ

 




(ID:111125)

คิดแค่วันนี้ก็พอครับพรุ่งนี้ยังมาไม่ถึง.....อย่าไปคิดให้ท้อทำไมครับ..สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆครับทุกท่าน...(ไม่เข้าใจจะตั้งกระทู้ให้เครียดทำไม)นะครับ




(ID:111128)

ขอให้กำลังใจครับ   แต่ปัจจุบัน ณ พ.ศ. 2554 นี้ ปัจจัยความเสียงสูงมาก ในการประกอบอาชีพหนังกลางแปลง เพราะว่ามีเทคโนโลยีที่ทันสมัย เข้ามา และบริบทในสังคมชนบทได้เปลี่ยนแปลงไป คือ คนชนบทเริ่มไม่นิยมดูหนังกลางแปลงแล้ว เพราะมี ทีวีจอแบบ และโปรเจกเตอร์ที่มีความเข้มของแสง มากหรือเท่าเตาฮารค์ หรือหลอดซีนอน และมีระบบเสียงแบบโฮมเธียรเตอร์ ความสุนทรความทางบันเทิงที่อยู่ในบ้าน ในเรื่องความชัดเจนมีระบบ ไฮเอ็น  ดีวีดี และมูเลย์ ประมาณนั้น 

 




(ID:111220)
ยังไงเสน่ห์ของหนังกลางแปลง มันก็ยังคงขลัง ในหัวใจของผู้ที่รัก สายเลือดเก่าผลัดไป สายใหม่เข้ามา ถึงแม้อาจจะไม่เข้ม แต่ก็ช่วยหล่อเลี้ยงให้หนังกางแปลงมีชีวิต ให้คนรุ่นต่อไปได้สัมผัส 



(ID:111524)

ฝรั่งจะพาชาวโลกไปดูหนังโปรเจกเตอร์หรูๆแบบ3ดีในโรงหนัง

มองฟิล์มเป็นของล้าสมัยฉายไปนานๆมีเส้น มีรอยต่อหัวม้วน

เสียอรรถรถในการชม ดูคําโฆษณาชวนเชื่อมัน อีกไม่นานโรงหนัง

ในประเทศที่เจริญแล้ว จะเป็นดิจิตอลทั้งหมด ไทยก็บ้าตามมันไป

ลงทุนใหม่ไม่รู้กี่ร้อยกี่พันล้าน ชาติไหนจะได้ทุนคืนยังไม่รู้เลย

ถึงเวลานั้นดูหนังโรงหรูๆ แพง ก็คงไม่ต่างจากการดูโปรเจกเตอร์

ทั่วๆไปนี่เอง อย่าพึ่งเชื่อผม เพราะผมก็อ่านเขามาอีกที .............

รักหนังกลางแปลงถึงทําครับ หนังกลางแปลงดูแล้วได้อะไรมากกว่า

ที่ฝรั่งมันคิดอีกครับ โธ่หาเรื่องขายของ ดู y2k กับ THX เป็นตัวอย่างก็แล้วกัน

 




(ID:111555)

แต่ละมลรัฐของอเมริกา และแคนาดา มลรัฐหนึ่งจะมีโรงภาพยนตร์แบบซีนีเพล็กซ์อยู่ 1 - 2 แห่ง แต่ละแห่งจะมีโรงย่อย 3 - 5 โรง ยกเว้นมลรัฐใหญ่ๆ จะมีถึง 5 โรงย่อยขึ้นไป สูงสุดไม่เกิน 15 โรงย่อย (กล่าวถึงเฉพาะโรงที่ฉายหนัง Mass วงกว้าง หรือหนัง Mass จำกัดโรง)

ทุกโรงย่อย จะมีเครื่องฉายภาพยนตร์ฟิล์ม 35 ม.ม. และเครื่องฉายโปรเจคเตอร์ ระดับ 2K - 4K ติดตั้งคู่ขนานกันเลย

ส่วนระบบ 3 มิติทั้งหลาย จะอยู่ในโรงภาพยนตร์ตามมลรัฐสำคัญๆ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเท่านั้นครับ ประมาณ 1 - 2 โรง ส่วน "ไอแม็กซ์" ขอไม่เอ่ยถึงครับ

ช่วงแรกๆ ที่เริ่มมีการฉายระบบดิจิตอล ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทั้งจาก "อนุรักษ์นิยม" และ "สมัยใหม่" เหมือนอย่างเราๆ ท่านๆ นี่แหละครับ แต่สุดท้ายก็เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ธุรกิจภาพยนตร์ในอเมริกาก็ยังดำเนินต่อไป

ส่วนธุรกิจภาพยนตร์ในบ้านเราก็ต้องน้อมรับเทคโนโลยีอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง จากแรกๆ ที่ยังพัฒนาในระยะขั้นต้น สุดท้ายก็ไปแบบก้าวกระโดด และยังมีแนวโน้มว่าจะยังไม่หยุดอยู่กับที่ด้วย

สำหรับประสบการณ์การดูหนังของผมดูมาหมดทุกระบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบฟิล์ม แบบดิจิตอล (ทั้งแบบธรรมดา และแบบ 3 มิติ) ก็เลยรู้สึกเฉยๆ เพราะสายตาสามารถปรับตัวได้หมด ทั้งหนัง Mass วงกว้าง และหนังนอกกระแส ล่าสุดก็มี ศพไม่เงียบ (ดิจิตอล ธรรมดา) / เซ็กซ์ แอนด์ เซ็น ดูทั้งแบบ 3 มิติที่เอสเอฟ และที่ House ซึ่งเป็นฟิล์ม เสียงจีน ซับไทย / เดอะ ไลอ้อน คิง 3D (ดิจิตอล 3 มิติ) และ 30 กำลังแจ๋ว (ดิจิตอล ธรรมดา)

สิ่งที่ตามมาคู่ขนานกัน นั่นคือ การบริการจัดการธุรกิจการจัดหน่ายภาพยนตร์แบบ "ผูกขาดเบ็ดเสร็จ" ซึ่งคำนี้น่าจะใช้ได้กับยุคนี้ แต่สำหรับผมนั้น เริ่มสังเกตเห็นมาตั้งแต่ตอนทำงานเป็นเด็กส่งฟิล์ม เป็นเช็คเกอร์ตั้งแต่ตอนเรียน ป. ตรีแล้วครับ ช่วงเวลาว่างก็ศึกษาเก็บเกี่ยวความรู้ไปด้วย และเห็นลางร้ายที่จะเกิดขึ้นข้างหน้าก่อนที่เว็บนี้จะเกิดเสียอีก

ผมเชื่อว่าหลายคนที่ทำ "หนังกลางแปลง" ต่างก็ทราบกันดีครับ ว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนนี้ และที่สำคัญก็ไม่มีทางที่จะหลีกเลี่ยงได้ ดังนั้นสิ่งที่จะทำได้ในตอนนี้ นั่นคือ การปรับตัวตามสถานการณ์ เพราะถ้าจะหวังรายได้จากหนังกลางแปลงเป็นเรื่องที่ยากครับ

ส่วนผมนะเหรอครับ เตรียมพร้อมไว้ก่อนหน้าแล้ว ก็เดินหน้าไปตามกำลัง และสิ่งที่ผมดำเนินอยู่นั้น มันก็ค่อยๆ ต่อยอดออกไปได้เรื่อยๆ




(ID:111590)

เหนตามพี่สถิตยนะพี่ ฉายฟิล์มดีกว่าอะไรใหม่ๆพี่ไทยเห่อ ประเภทรู้มั่งไม่รู้มั่งยิ่งเห่อดีครับไม่ได้ว่าใครนะครับเปนความคิดผมครับ

 

 




(ID:112254)

เล่นเครื่องไฟ ยังพอจะมีโอกาสได้ทุนคืนบ้างครับ แต่นานหน่อยนะ




(ID:112296)
อย่า คิดมาก คะ.......คำว่า ถอนทุน คืน มัน ซีเรียส คะ ขอให้เรามีสุขภาพ ร่างกายแข็งแรง ทำในสิ่งที่เรารัก คะ แล้วเงิน และทุก ๆ สิ่ง ทุก ๆ อย่างจะตามมา คะ



เลือกหน้า
[1] [2]
จำนวนหัวข้อทั้งหมด 24

กลับขึ้นข้างบน / กลับหน้าแรก

ค้นกระดานข่าว:


ถูกเปิด: ถูกคลิ๊กแล้ว: 115295520 ตอนนี้มีผู้เข้าชม : 1 ล่าสุด :พีเพิลนิวส์ , จิว , ไผ่เศร้าสหอิสาน , พนธ์ , นนท์ , บังลาน , Sam , moninter , สุเมธ , surindan70 ,